หากคุณคิดว่าทุกวันนี้โลกร้อนแล้ว โลกจะร้อนเช่นนี้ต่อไปทุกปีและยังสามารถร้อนขึ้นได้อีก นี่ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของภาวะโลกร้อนแต่เป็นผลสืบเนื่องยาวนานจากการสะสมพฤติกรรมตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หากเรายังไม่เปลี่ยนพฤติกรรม จากผลกระทบที่รู้สึกว่าไกลตัวจะเริ่มส่งผลชัดเจนขึ้นต่อความเป็นอยู่ของเรา ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรักษาสภาวะความเป็นอยู่ของโลก การหวังให้ภาครัฐหรือบริษัทใหญ่ปรับตัวก่อนเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ด้วยโครงสร้างที่การปรับเปลี่ยนทำได้ช้ากว่ารายย่อยหรือภาคเอกชน
แต่หากมองถึงผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SME การพยุงตัวให้รอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาคือความท้าทายอันใหญ่หลวง บริบทสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์โรคระบาดที่ผ่านมาคือสัญญาณเตือนที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ ปรับตัวเริ่มหันมาสนใจการออกแบบหมุนเวียน (Circular Design) การออกแบบสู่เส้นทางรอดอย่างยั่งยืน
หนึ่งในการรวมพลังของภาคธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือการร่วมเป็นสมาชิก UN Global Compact หรือ สมาคมเครือข่ายของผู้ประกอบการนักธุรกิจจากทั่วโลก สู่การบรรลุเป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) จากการผลักดันเพื่อความยั่งยืนจากทั่วโลกได้นำไปสู่แนวทาง Bio-Circular-Green Economy (BCG Economy) และการนำหลักการ Circular Design มาใช้ รวมถึงการตอบรับกระแสโลกทางนโยบายของรัฐบาลไทยที่ให้ความสําคัญกับเรื่อง สิ่งแวดล้อม การลดก๊าซเรือนกระจก ในการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ด้วยเศรษฐกิจ BCG คือ
เข้าสู่การออกแบบที่ทำให้ธุรกิจหมุนเวียนได้
หลักการของ CIRCO methodology จะเน้นตั้งแต่ต้นทางของห่วงโซ่คุณค่า (value chain) เริ่มจากการออกแบบใหม่ให้ยั่งยืน (redesign) ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุด้วยการรีไซเคิล ด้วยเครื่องมือที่ประยุกต์ใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) คู่กับการออกแบบหมุนเวียน (Circular Design) ที่ทำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนแนวคิดสู่รูปธรรม โดยเริ่มที่ “การยืดอายุการใช้งาน” แบ่งเป็น 2 แนวคิดการออกแบบ
1) "Products that Last" จะสำรวจว่าธุรกิจสามารถยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ของตนได้อย่างไรผ่านกลยุทธ์การออกแบบที่เน้นความทนทาน ความสามารถในการซ่อมแซม และความสามารถในการอัพเกรด ซึ่งไม่เพียงช่วยลดของเสียและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับธุรกิจ SME ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน อาทิ การพัฒนาคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ที่สามารถซ่อมแซมอะไหล่เพื่อยืดอายุการใช้งานให้สามารถรักษาฐานผู้ใช้ให้อยู่กับแบรนด์ยาวนานขึ้น
2) "Products that Flow" มุ่งเน้นไปที่แนวคิดการไหลเวียนในบริบทของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและวัสดุแต่ละชิ้นของสินค้าสามารถส่งผ่านไปยังห่วงโซ่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (ไม่กลายเป็นขยะ) ซึ่งนำไปสู่ระบบหมุนเวียนที่ยั่งยืนมากขึ้นใส่ใจการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุดจนสิ้นสุดอายุการใช้งาน อาทิ เมื่อเราซื้อเมล็ดกาแฟสิ่งที่เราต้องการแท้จริงคือเมล็ด ไม่ใช่ถุงหรือป้ายราคา การออกแบบร้านที่สามารถ refill กาแฟที่สะอาดในบรรจุภัณฑ์เดิมที่เรามีอยู่จึงทำให้ลดการใช้บรรจุภัณฑ์ลง
การสร้างธุรกิจที่เติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืนคือความท้าทาย Circular Design นำเสนอแนวทางสำหรับธุรกิจในการลดของเสีย ยืดอายุผลิตภัณฑ์ และสนับสนุนเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ไม่เพียงแต่เป็นการปลดล็อกศักยภาพในการเติบโตและประสบความสำเร็จ แต่ยังปกป้องโลกของเราสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป
ทั้งนี้ โครงการขับเคลื่อนระบบการส่งเสริมธุรกิจ MSME ด้วย BCG (BIO-CIRCULAR-GREEN ECONOMY ภายใต้การสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยความร่วมกับมือ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ UN GCNT ตั้งเป้าหมายจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้และเข้าใจเรื่อง BCG ให้กับผู้ประกอบการ MSME จำนวน 1,000 ราย ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศระหว่างเดือนมีนาคม – กรกฎาคม 2566 ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าอบรมฟรี!
วันเสาร์ ที่ 1 กรกฎาคม 2566 ⏰ เวลา 9:30 - 16:00น.
ที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ถ.วิภาวดีรังสิต
Link ลงทะเบียน https://forms.gle/dtaSnoUaXNE1sS7E8
วันศุกร์ ที่ 7 กรกฎาคม 2566 ⏰ เวลา 9:30 - 16:00น.
ที่ โรงแรมมณีจันท์ จ.จันทบุรี
Link ลงทะเบียน https://forms.gle/hesiGTdG4w96fT6UA
วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2566 ⏰ เวลา: 9:30 - 16:00น.
ที่ อาคาร Knowledge Xchange (KX) ใกล้ BTS วงเวียนใหญ่
Link ลงทะเบียน https://forms.gle/iGF9SYtbtXi4gVcP6
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ Circo Hub Thailand www.circo.globalcompact-th.com
อีเมล: circohub.th@gmail.com