อีกองค์กรที่อยู่ในเครือข่าย GCNT คือบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ทางบริษัทเผยถึงกรอบการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนว่า กำลังมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ ผ่านกลยุทธ์สำคัญ 4 ด้าน เรื่องพลังงานสะอาด, การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ, การบริหารจัดการขยะอาหาร และบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน
.
กลยุทธ์ที่ 1: การใช้พลังงานสะอาด (Renewable Energy)
แม็คโครเผยว่าได้ติดตั้งแผงโซลาร์เซล (Solar Roof top) ไปแล้ว 52 สาขา สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 17,659 เมกะวัตต์ชั่วโมงในปีพ.ศ.2563 และมีแผนติดตั้งเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องให้ครบทุกในสาขาที่สามารถดำเนินการได้ รวมถึงเปลี่ยนรถฟอร์คลิฟท์ชนิดใช้น้ำมัน มาเป็นชนิดใช้ไฟฟ้าแทน ทำให้อาจช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกไปได้ 2,900 ตันเทียบเท่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี
.
กลยุทธ์ที่ 2: การจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ (Energy efficiency management)
ในแม็คโคร 26 สาขา ได้ปรับเปลี่ยนโคมไฟ เป็นหลอด LED ประสิทธิภาพสูง และทุกสโตร์มีแผนบริหารจัดการระบบทำความเย็น ด้วยการปรับเปลี่ยนเป็นน้ำยาทำความเย็นของระบบตู้แช่อาหารสด ให้เป็นชนิดที่สามารถลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงปรับปรุงระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ
.
กลยุทธ์ที่ 3: การบริหารจัดการขยะอาหาร (Food Waste Management)
แม็คโครกล่าวว่า มีเป้าหมายให้มีขยะอาหารไปหลุมฝังกลบเป็นศูนย์ ภายในปีพ.ศ.2573 (Zero Food Waste to Landfill in 2030) เพื่อลดปริมาณก๊าซมีเทนที่เกิดจากกระบวนการย่อยสลายขยะอาหาร โดยบริหารจัดการตลอดกระบวนการ ตั้งแต่ การลดปริมาณขยะอาหารในกระบวนการ การนำขยะอาหารไปทำเป็นอาหารสัตว์ การแปรรูปขยะอาหารเป็นน้ำหมัก EM หรือวัสดุปรับปรุงคุณภาพดิน
.
กลยุทธ์ที่ 4: บรรจุภัณฑ์ยั่งยืน (Sustainable Packaging)
แม็คโครชี้ว่า ตนเป็นผู้นำธุรกิจค้าส่งไทยรายแรกที่ตั้งเป้าหมาย หยุดการขายภาชนะโฟมใส่อาหารแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ในทุกสาขา ภายในปีพ.ศ.2565 ผ่านโครงการแม็คโครรักษ์โลก (Say Hi to Bio, Say No to Foam) และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านโชห่วยที่เป็นลูกค้าหลักที่สำคัญ หันมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงส่งเสริมการตลาด และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ให้มีคุณสมบัติตอบโจทย์ผู้ใช้งาน พร้อมราคาที่จูงใจผู้ประกอบการ และผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมได้ง่ายยิ่งขึ้น
.
.
ที่เรามองว่าน่าติดตามมาก ๆ น่าจะเป็นเรื่องราคาของบรรจุภัณฑ์ เพราะเป็นส่วนที่จะโน้มน้าวให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสนใจ ให้เปลี่ยนจากการใช้บรรจุภัณฑ์โฟมหรือพลาสติกทั่วไปมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ต้องมาติดตามกัน กลยุทธ์นี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าเป็นจริงก็จะเอื้อต่อพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนทั่วไปมาก ๆ เลย