ธนาคารกสิกรไทยกับบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงความยั่งยืนของทุกภาคส่วน

บทบาทของสถาบันการเงินกับการสร้างความยั่งยืน คือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการรวมทั้งกำหนดมาตรการทางการเงิน เพื่อเชื่อมความยั่งยืนจากทุกภาคส่วน

ธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับปัจจัยดังกล่าว จึงได้กำหนด “KBank ESG Strategy 2023” เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจบนหลักการด้าน ESG โดยมุ่งสู่การเป็นผู้นำธนาคารแห่งความยั่งยืนของภูมิภาค พร้อมนำพาลูกค้าและธุรกิจไทยเดินหน้าและเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน

ทั้งนี้ธนาคารได้กำหนดแผนกลยุทธ์เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม ด้วยการกำหนดวิธีการบริหารจัดการและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ลูกค้า ควบคู่ไปกับการจัดสัมมนาให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง และการให้บริการสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืน

โดยครึ่งแรกของปี 2023 ธนาคารให้สินเชื่อส่วนนี้ไปแล้วรวมกว่า 19,400 ล้านบาท และวางเป้าหมายระยะยาวเป็นยอดรวมที่ 1-2 แสนล้านบาทภายในปี 2030 นอกจากนี้ ธนาคารได้พัฒนาบริการ Beyond Financial Solutions เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ง่ายยิ่งขึ้น 

ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจตามเจตนารมณ์ของการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืน ซึ่งถูกปลูกฝังอยู่ในทุกกระบวนการทำงานจนเป็น Green DNA ขององค์กร โดยมีการกำหนดยุทธศาสตร์ เป้าหมาย และการวัดผลที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม  และให้ความสำคัญกับการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการนำไปปฏิบัติให้เป็นแนวทางเดียวกัน ด้วยการจัดอบรม สื่อสาร และจัดกิจกรรมต่างๆ

รวมทั้งผลักดันให้เกิด Green Behavior ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ การแยกขยะภายในอาคาร การประหยัดพลังงาน เพื่อให้พนักงานช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนให้บรรลุผลตามที่กำหนด

นอกจากนี้ ธนาคารยังเชื่อมั่นว่าประเทศจะเติบโตได้อย่างยั่งยืนจำเป็นต้องมีรากฐานทางสังคมที่แข็งแรง โดยเฉพาะด้านการศึกษา ธนาคารจึงได้จัดทำโครงการพัฒนาความรู้ให้แก่ครูและนักเรียน อาทิ โครงการน่านเพาะพันธุ์ปัญญา ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,300 คน  และจากการวิเคราะห์ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน (SROI) ของโครงการนี้ พบว่าทุกการลงทุน 1 บาทของโครงการ จะสามารถสร้างประโยชน์ทางสังคมด้วยมูลค่า 1.95 บาท และโครงการ AFTERKLASS ที่มีเป้าหมายสอนให้นักเรียนมีความรู้ด้านการเงิน ธุรกิจและการลงทุน ควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีสมาชิกมากกว่า 50,000 คน และเข้าร่วมเวิร์คช้อปมากกว่า 1,500 คน  ต่อปี