กลุ่มธุรกิจ TCP ฟื้นคืนแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน

Environment

“ทรัพยากรน้ำเป็นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิต และการพัฒนาเศรษฐกิจในทุกมิติ กลุ่มธุรกิจ TCP จึงไม่เพียงจัดการน้ำอย่างยั่งยืนภายในกระบวนการผลิต แต่ยังขยายความรับผิดชอบไปถึงการจัดการน้ำร่วมกับชุมชน เรามุ่งคืนน้ำให้ชุมชนเท่ากับน้ำที่ใช้ในการผลิต รวมทั้งส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งน้ำคุณภาพ ให้มีน้ำกินและน้ำใช้ในเกษตรกรรมอย่างเพียงพอ”

สราวุฒิ อยู่วิทยา
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจ TCP

กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม แมนซั่มวิตามินวอเตอร์ ไฮ่! เพียวริคุ วอริเออร์ และซันสแนค ในฐานะองค์กรที่ใช้น้ำเป็นวัตถุดิบหลักในการดำเนินธุรกิจ TCP เชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคมและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจึงได้กำหนดให้การจัดการน้ำอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญขององค์กรโดยตั้งเป้าหมายจะเติมน้ำสะอาดปลอดภัยกลับคืนสู่ชุมชนมากกว่าที่บริษัทใช้ หรือ “น้ำสุทธิเป็นบวก” (Net Water Positive) ภายในปี 2573


บริหารจัดการน้ำในองค์กรอย่างคุ้มค่า “ไม่ทิ้งน้ำ”
เพราะน้ำคือหัวใจสำคัญของกลุ่มธุรกิจ TCP การดูแลทรัพยากรน้ำจึงอยู่ในทุกขั้นตอนของการดำเนินธุรกิจ ด้วยระบบบริหารจัดการน้ำต่างๆ ที่ช่วยให้การผลิตเครื่องดื่มสามารถใช้น้ำอย่างคุ้มค่าในทุกขั้นตอนการผลิต มีการนำน้ำมาบำบัด และหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ปล่อยน้ำเสียออกสู่ภายนอกโรงงาน

จัดการน้ำร่วมกับชุมชน ฟื้นคืนน้ำให้ชุมชนและธรรมชาติ
กลุ่มธุรกิจ TCP ได้จับมือกับพันธมิตรและชุมชน เดินหน้าสร้างสมดุลน้ำ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน มุ่งเน้นการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทุกมิติ ทั้งการพัฒนาน้ำผิวดินและน้ำใต้ดิน ในโครงการ “TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย” ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 โดยการส่งเสริมชุมชนให้มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำด้วยตนเอง “หาน้ำได้ ใช้น้ำเป็น ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” เพื่อบรรเทาผลกระทบในช่วงน้ำท่วม น้ำแล้ง พัฒนาแหล่งน้ำให้ชุมชนมีน้ำใช้เพิ่มขึ้น รวมถึงคืนน้ำสู่ธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นคงด้านน้ำ ด้านอาหาร และด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยมีตัวอย่างการดำเนินงาน ดังนี้

1. ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) 
ดำเนินงานในโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น การนำระบบเทคโนโลยี Thaiwater Mobile Application ระบบแบบจำลองการไหลของน้ำ ระบบติดตาม/คาดการณ์สถานการณ์น้ำ มาใช้ในชุมชนเพื่อให้ชุมชนสามารถบริหารจัดการน้ำได้ด้วยตนเอง เพิ่มน้ำต้นทุน มีน้ำสำรองสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตร วางแผนเพาะปลูก สร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชน 
ปัจจุบันมีพื้นที่การทำงานครอบคลุม 21 จังหวัด ในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำบางปะกง และสระ/อ่างเก็บน้ำ พื้นที่รับประโยชน์ประมาณ 104,538 ไร่ ผู้รับประโยชน์ 40,819 ครัวเรือน ปริมาณน้ำรวมที่สามารถบริหารจัดการต่อปี 13,619,811 ลูกบาศก์เมตร
ตัวอย่างผลสำเร็จ เช่น จังหวัดแพร่ ชุมชนมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 341,000 ลบ.ม. และสามารถบริหารจัดการน้ำได้มากสุดถึง 6 รอบต่อปี สร้างรายได้ให้เกษตรกร 8,000-15,000 บาทต่อเดือน มีน้ำสำหรับทำเกษตร เกิดระบบ Smart Farmer กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านผักยิ้ม มีความมั่นคงด้านอาหาร สามารถวางแผนการผลิตในแต่ละปี เกิดศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ และสร้างรายได้ให้กับชุมชนในภาวะวิกฤต

2. ร่วมกับสถาบันวิจัยทรัพยากรน้ำใต้ดิน มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดำเนินงานในโครงการพัฒนาและจัดการน้ำอย่างยั่งยืนด้วยการเติมน้ำใต้ดิน ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำการศึกษา วิจัย ประเมินศักยภาพของพื้นที่ และให้ความรู้แก่ชุมชนในเรื่องน้ำใต้ดิน เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม คือ ชุมชนต้นแบบการเติมน้ำใต้ดิน ต.นนทรี อ.กบินท์บุรี สามารถแก้ปัญหาน้ำแล้งได้อย่างเป็นรูปธรรม ชุมชนมีน้ำใช้เพียงพอทั้งอุปโภคบริโภค และทำการเกษตร มีผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้น 7,576,640 บาทต่อปี ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน SROI คือ 1 ต่อ 17.09 บาท (ปี 2565) ต่อยอดเศรษฐกิจ สร้างจุดขายให้ชุมชน เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

3. ร่วมกับองค์การกองทุุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature; WWF) เพิ่มศักยภาพชุมชนในการอนุุรักษ์ ฟื้นฟูู บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระบบจัดสรรน้ำสู่พื้นที่เกษตรกรรม และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเพียงพอต่อการดำรงชีพในพื้นที่แม่น้ำปราจีนบุรีตอนล่าง ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ผ่านการขุดลอกคูคลองปรับปรุงระบบคลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรม ร่วมกับชุมชนและภาครัฐกำจัดวัชพืชในคลอง ทำให้การไหลของน้ำเข้าพื้นที่ทำกินของเกษตรกรมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นสุทธิ 551,383.6 ลบ.ม. มีพื้นที่นาที่ได้รับประโยชน์ 9,018 ไร่ คิดเป็น 66% ของพื้นที่นาทั้งหมด เกษตรกรได้รับประโยชน์ 993 ครัวเรือน คิดเป็น 65% ของครัวเรือนทั้งหมดใน 13 หมู่บ้านเป้าหมาย ต.บางแตน

TCP Spirit” สร้างคนรุ่นใหม่ร่วมดูแลแหล่งน้ำ
จากโครงการ “TCP โอบอุ้มลุ่มน้ำไทย” จุดประกายไปสู่การสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นกับคนทั่วไป โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นพลังสำคัญร่วมดูแลทรัพยากรน้ำ ผ่านการจัดโครงการ “TCP Spirit” ภายใต้แนวคิด “พยาบาลลุ่มน้ำ” (ปี 2562 และ 2563) โดยนำเยาวชนอาสาสมัครทั้งนิสิตนักศึกษาจนถึงหนุ่มสาวคนทำงานจากหลากหลายสาขาอาชีพกว่า 200 คนไปเปิดประสบการณ์ เรียนรู้ถึงความสัมพันธ์ของป่าและน้ำ สร้างความตระหนักรู้ เข้าใจปัญหาลุ่มน้ำจากคนในพื้นที่และเรียนรู้วิธีการจัดการน้ำและการจัดการที่ดินตามวิถีของแต่ละลุ่มน้ำ รวมทั้งร่วมลงมือทำงานแก้ปัญหา อันจะนำไปสู่การสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนต่อไปได้

ตัวอย่างเช่น ปี 2562 พาอาสาสมัครไปทำความเข้าใจปัญหาลุ่มน้ำไทยที่พื้นที่ป่าต้นน้ำสบสาย และชุมชนต้นน้ำน่าน ใน อ.ท่าวังผา จ.น่าน ซึ่งในอดีตมีปัญหาการรุกล้ำพื้นที่ป่าต้นน้ำจนกลายเป็นภูเขาหัวโล้น และพบสารเคมีจากการเกษตรปนเปื้อนในแหล่งน้ำเป็นจำนวนมาก อาสาสมัครได้เห็นการแก้ปัญหาในพื้นที่จริง รู้จักวิธีการดูแลลุ่มน้ำที่ดี และมีความรู้เรื่องการกักเก็บน้ำสำรองใช้เพื่อการยังชีพและทำการเกษตร ผ่านการลงมือทำจริงกับคนในชุมชน เช่น การทำแท็งก์น้ำไม้ไผ่ขนาดใหญ่สำหรับใช้เก็บน้ำฝน การขุดคลองไส้ไก่ซึ่งเป็นคลองขนาดเล็กที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผืนดิน การทำหนองปลาโตไว คือการขุดหนองน้ำเลียนแบบหนองน้ำตามธรรมชาติที่ช่วยเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี เรียนรู้วิธีทำหัวคันนากินได้ หัวคันนาขนาดใหญ่ที่ใช้สำหรับเก็บน้ำในนาและปลูกพืชผักกินได้และใช้ประโยชน์

องค์กรธุรกิจต้องมีกลยุทธ์เรื่องการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนฝังลงไปเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจ และมีกรอบการดำเนินการที่ชัดเจน ครอบคลุมการลดการใช้และใช้น้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดภายในองค์กร รวมทั้งการทำงานร่วมกับชุมชน องค์กร และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก เพื่อฟื้นคืนน้ำให้กับธรรมชาติ โดยการดำเนินงานดังกล่าวจะต้องสอดคล้องตามมาตรฐานสากล และมีกระบวนการยืนยันที่เชื่อถือได้ ทั้งนี้ เพื่อบรรลุหนึ่งในเป้าหมายธุรกิจ Net Water Positive ภายในปี พ.ศ. 2573 และสามารถสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรน้ำได้อย่างแท้จริง

ร่วมเปลี่ยนแปลงโลกกับเรา
UN Global Compact
Network Thailand
APPLY FOR MEMBERSHIP
เกี่ยวกับคุกกี้บนเว็บไซต์นี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์เพื่อปรับปรุง ปรับแต่งเนื้อหา และโฆษณาตามความต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ และ นโยบายสิทธิส่วนบุคคล
Subscribe
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าคุกกี้ในแต่ละประเภทได้ดังต่อไปนี้
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่จำเป็นต่อการให้บริการ
(Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่จะช่วยให้ท่านสามารถเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยของเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้เพื่อการวัดผลการทำงานและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์
(Performance and Functionality Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะถูกใช้เพื่อจดจำท่านเมื่อท่านกลับเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง ช่วยให้เราปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับท่านและจดจำการตั้งค่าของท่าน (เช่น ภาษาหรือภูมิภาคที่ท่านเลือก) แต่ไม่จำเป็นต่อการวัดผลการทำงานของเว็บไซต์
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์หรือเพื่อการปรับแต่ง
(Analytical or Customization Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ใช้งานเข้าสู่เว็บไซต์และออกจากเว็บไซต์ เราใช้ข้อมูลนี้ในลักษณะของข้อมูลโดยรวมเพื่อช่วยให้เราปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์ หรือเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราตามความสนใจของท่านได้