"เดนมาร์ก” ประเทศแห่งพลังงานหมุนเวียน ที่โครงข่ายไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

Article

“วันไหนลมพัดแรง ชาวเดนมาร์กจะดีใจและรีบกลับบ้านไปซักผ้า เพราะราคาของพลังงานที่ถูกลง ทำให้อบผ้าแห้งไวและจ่ายค่าไฟไม่แพง”


คำกล่าวถึงแนวคิดการใช้ชีวิตของชาวเดนมาร์กนี้ไม่เกินจริงเลย เพราะปัจจุบันกว่า 46 เปอร์เซ็นต์ของกระแสไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่ในประเทศสแกนดิเนเวียแห่งนี้ สร้างขึ้นจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ 

การปฏิวัติพลังงานเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อบรรเทาผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เมื่อทั่วโลกต่างตั้งเป้าหมาย Net Zero ในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า ในขณะที่ยุคแห่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังจะจบลง ยุคใหม่แห่งการใช้พลังงานสะอาดที่ยั่งยืน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และหมุนเวียนใช้ได้ตลอดไปก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว 

วันนี้ GCNT นำเรื่องความล้ำหน้าด้านพลังงานและความยั่งยืนจากทีมงาน UN Global Compact Network Denmark มาถ่ายทอดให้ฟัง รวมถึงการเลือกตั้งรัฐสภาแห่งเดนมาร์กที่กำลังจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะกลายเป็นหมุดหมายในการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดเต็มกำลังของเดนมาร์ก ประเทศหัวขบวนแห่งการปฏิบัติพลังงานสู่ความยั่งยืนของโลก



การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน

ย้อนกลับไปช่วงทศวรรษที่ 70 การเปลี่ยนแปลงสู่ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในเดนมาร์กเริ่มต้นขึ้นจากวิกฤตน้ำมัน และความพยายามที่จะหาแหล่งพลังงานทางเลือกทดแทนตลอดหลายสิบปีนับจากนั้น ทำให้เดนมาร์กกลายเป็นผู้นำในด้านพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ 

ทุกวันนี้ พวกเขามีโครงข่ายไฟฟ้าที่ยืดหยุ่นและมีเสถียรภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยมีความปลอดภัยในการจัดหาไฟฟ้าถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ 

ในอนาคต เดนมาร์กยังตั้งเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 70 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2030 (เทียบกับระดับเมื่อปี 1990) รวมถึงยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในระบบผลิตไฟฟ้าถาวร เพื่อเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางสภาพอากาศให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2050 

หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คือความต้องการพลังงานของโลกนั้นมีแต่ละเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการค้นหาทางเลือกอื่นที่ยั่งยืนกว่าพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลคือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง 

ช่วง 40 ปีที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจของเดนมาร์กจะเติบโตขึ้นเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ แต่อัตราการใช้พลังงานของทั้งประเทศกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากเท่าใด นั่นเพราะความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาเริ่มต้นบ่มเพาะมาก่อนชาติไหนๆ 

การเปลี่ยนแปลงไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน กรอบการดำเนินงานตลอดเวลานับสิบปีของเดนมาร์กถูกพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม เดนมาร์กก็ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า พวกเขายินดีแบ่งปันประสบการณ์ที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ประเทศอื่นๆ เดินหน้าบนเส้นทางที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น เพื่อให้โลกของเราก้าวกระโดดสู่การปฏิวัติพลังงานให้ได้โดยเร็วที่สุด

ความจริงสีเขียวที่ปลอดภัยและราคาถูก

ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนของเดนมาร์ก เกิดขึ้นจากการทำงานอย่างสอดประสานกันขององค์กรมากมายในทุกภาคส่วน 

หนึ่งในนั้นคือกรีน เพาเวอร์ เดนมาร์ก (Green Power Denmark) องค์กรธุรกิจที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ซึ่งมีเครือข่ายสมาชิกถึง 1,500 คน ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าพลังงานสีเขียว ตั้งแต่ตัวแทนของบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน เจ้าของและผู้พัฒนาระบบพลังงานหมุนเวียน บริษัทไฟฟ้า ผู้ดำเนินการระบบจำหน่าย (DSO) บริษัทซื้อขายพลังงาน ไปจนถึงบริษัทที่ทำงานเพื่อกลั่น แปลง และจัดเก็บไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยทุกคนต่างมุ่งมั่นที่จะเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่สังคมปลอดคาร์บอน

กรีน เพาเวอร์ เดนมาร์ก ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 ผ่านการควบรวมกิจการระหว่าง Dansk Energi (Danish Energy) ร่วมกับ Wind Denmark และ Solar Power Denmark โดยทั้งสามองค์กรต่างมีประสบการณ์มากกว่า 55 ปีในการส่งเสริมเงื่อนไขกรอบการทำงานที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริษัทพลังงาน เจ้าของระบบพลังงานหมุนเวียน บริษัทที่จำหน่ายไฟฟ้าในเดนมาร์ก ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาธุรกิจและห่วงโซ่คุณค่าในอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวในเดนมาร์ก

ท่ามกลางวิกฤตด้านพลังงานและอุปทานที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่การรณรงค์หาเสียงหลายต่อหลายครั้งที่เดนมาร์ก จะมีหัวข้ออภิปรายเกี่ยวกับประเด็นนี้เสมอ เพื่อให้นักการเมืองในอนาคตผลักดันการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้และให้ความสำคัญกับการหาวิธียุติพลังงานฟอสซิลเป็นอันดับแรก

คริสเตียน เจนเซ่น (Kristian Jensen) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารแห่ง Green Power Denmark กล่าวว่า “สมาชิกทั้ง 179 คนของ Folketing หรือรัฐสภาแห่งเดนมาร์ก ซึ่งกำลังหาเสียงกันอยู่ตอนนี้ คือผู้ปิดผนึกการตัดสินใจที่จำเป็นสำหรับประเทศในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศภายในปี 2030 การจะเปลี่ยนความทะเยอทะยานเรื่องสิ่งแวดล้อมอันยิ่งใหญ่ ให้กลายเป็นความจริงสีเขียวที่ปลอดภัยและมีราคาถูกลงได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับรัฐสภาซึ่งเป็นศูนย์รวมของผู้มีสิทธิรับเลือกตั้งเหล่านี้”



การเลือกตั้งที่นำไปสู่การปฏิวัติพลังงาน

นับตั้งแต่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2019 ประเด็นเกี่ยวกับสภาพอากาศถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงอยู่เสมอ โดยแต่ละครั้งทุกฝ่ายต่างก็นำเสนอเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน รวมถึงมีการพูดคุยข้อตกลงแบบกว้างๆ มากมายในช่วงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ นอกจากเรื่องสภาพอากาศแล้ว เราต้องให้ความสำคัญกับเรื่องพลังงานและอุปทานด้วย 

วิกฤตพลังงานที่เกิดขึ้น มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนอุปทานและความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปัจจุบัน ประเทศแถบสแกนดิเนเวียกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว น้ำอุ่นและอุปกรณ์ทำความร้อนทุกอย่างล้วนต้องใช้พลังงาน ดังนั้นเมื่อราคาพลังงานสูงขึ้น ปัญหาใกล้ตัวที่ประชาชนต่างตั้งคำถามคือ พวกเขาจะรอดพ้นฤดูแห่งหิมะอันหนาวเหน็บไปได้อย่างไร?

“คาดว่าราคาและความปลอดภัยด้านพลังงานจะเป็นประเด็นที่ถูกเติมเต็มอย่างเหมาะสม ในแคมเปญการเลือกตั้งปี 2022 นี้ ที่เราน่าจะได้เห็นการสนับสนุนที่เพิ่มอัตราความเร็วขึ้น พลังงานสีเขียวเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดในการลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ดังนั้นการผลักดันให้พลังงานหมุนเวียนขยายตัวอย่างรวดเร็วจึงเป็นกรอบที่ดีสำหรับธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" 

ชาวเดนมาร์กต้องการผู้แทนที่มีวิสัยทัศน์ด้านการสรรหาพลังงานที่ดีต่ออนาคต โดยพวกเขาจะไปเลือกตั้งกันในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้! และหลังจากนั้นเราน่าจะได้เห็นเหล่าสมาชิกรัฐสภาแห่งเดนมาร์กเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายพลังงานสะอาดเต็มกำลัง เพื่อทำให้ประเทศบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 70 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2030 รวมถึงเป้าหมายความยั่งยืนหลายๆ ประการ ที่น่าจะถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง 

คริสเตียน เจนเซ่น ทิ้งท้ายว่า ทุกวันนี้ภูมิทัศน์ด้านความยั่งยืนของเดนมาร์กกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หากคุณทำงานในองค์กรหรือบริษัทที่ปฏิบัติตามวาระที่ยั่งยืน ย่อมสังเกตได้ว่ามีกฏระเบียบและข้อกฏหมายที่กดดันให้นักธุรกิจปรับรูปแบบดำเนินกิจการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

การขาดแคลนพลังงานในปี 2022 ทำให้การพัฒนาธุรกิจต่างๆ เป็นไปอย่างยากลำบาก ผู้บริหารธุรกิจจึงเล็งเห็นกันแล้วว่า ความยั่งยืนทางพลังงานซึ่งจากเดิมเป็นเรื่องที่ดี นับจากนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำ ซึ่งแน่นอนว่ามันคือความยั่งยืนและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในมุมมองด้านคุณค่าของสิ่งแวดล้อม”

ทำความรู้จัก Green Power Denmark มากขึ้นได้ที่นี่
ร่วมเปลี่ยนแปลงโลกกับเรา
UN Global Compact
Network Thailand
APPLY FOR MEMBERSHIP
เกี่ยวกับคุกกี้บนเว็บไซต์นี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์เพื่อปรับปรุง ปรับแต่งเนื้อหา และโฆษณาตามความต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ และ นโยบายสิทธิส่วนบุคคล
Subscribe
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าคุกกี้ในแต่ละประเภทได้ดังต่อไปนี้
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่จำเป็นต่อการให้บริการ
(Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่จะช่วยให้ท่านสามารถเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยของเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้เพื่อการวัดผลการทำงานและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์
(Performance and Functionality Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะถูกใช้เพื่อจดจำท่านเมื่อท่านกลับเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง ช่วยให้เราปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับท่านและจดจำการตั้งค่าของท่าน (เช่น ภาษาหรือภูมิภาคที่ท่านเลือก) แต่ไม่จำเป็นต่อการวัดผลการทำงานของเว็บไซต์
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์หรือเพื่อการปรับแต่ง
(Analytical or Customization Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ใช้งานเข้าสู่เว็บไซต์และออกจากเว็บไซต์ เราใช้ข้อมูลนี้ในลักษณะของข้อมูลโดยรวมเพื่อช่วยให้เราปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์ หรือเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราตามความสนใจของท่านได้