ปลดล็อกโรงแรมของคุณสู่ความยั่งยืนด้วย EDGE เครื่องมือของคนทำธุรกิจทั่วโลก

ในบทความที่แล้ว UN Global Compact Network Thailand ได้สรุปเทรนด์โลกในภาคบริการจากงานสัมมนา “ปลดล็อกการลงทุนสำหรับโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่น” มาให้ผู้ประกอบการโรงแรมในประเทศไทยเห็นทิศทางและความสำคัญของการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ อ่านบทความตอนที่ 1

หนึ่งในเครื่องมือสำคัญสำหรับผู้บริหารหรือเจ้าของกิจการที่กำลังเริ่มต้นคือ EDGE Application ซอฟแวร์ที่จะช่วยคุณวิเคราะห์ และสร้างกลยุทธ์ปรับปรุงอาคารให้ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น ไม่ว่ากิจการของคุณจะเป็นโรงแรม 5 ดาว หรือโรงแรมราคาประหยัด ก็สามารถลงทะเบียนเพื่อใช้ซอฟแวร์ดังกล่าวได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

EDGE Application เป็นเครื่องมือภายใต้มาตรฐานการรับรองอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในชื่อ EDGE (Excellence in Design for Greater Efficiencies) หากอาคารของคุณผ่านมาตรฐานรับรองนี้ ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือแก่นักลงทุน สถาบันการเงินและผู้บริโภค รวมถึงสร้างความโดดเด่นให้ธุรกิจของคุณในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ในบทความนี้ เราสรุปเนื้อหาจากงานสัมมนาครั้งที่ 2 ซึ่งเจาะลึกไปที่ EDGE โดยเฉพาะ พร้อมกรณีศึกษาของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ EDGE ช่วยให้ผู้ขับเคลื่อนธุรกิจเห็นถึงการดำเนินการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม มีผลลัพธ์ที่จับต้องได้ด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย 

ซีรีย์งานเสวนา “ปลดล็อกการลงทุนสำหรับโรงแรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่น” เป็นความร่วมมือของ Sustainable Hospitality Alliance และ International Finance Corporation (IFC) ในเครือของธนาคารโลก เพื่อสนับสนุนให้โรงแรมทำธุรกิจโดยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกับการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน สามารถฟังงานเสวนาเต็มได้ที่นี่

01 Emerging Market แนวโน้มที่กำลังเติบโต

ในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างประเทศไทย การดำเนินการด้านโครงสร้างสีเขียวเพิ่งเริ่มหยั่งราก อาคารที่ถูกออกแบบ ก่อสร้าง และได้รับการรับรองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังมีจำนวนไม่มาก นี่จึงเป็นโอกาสทางการแข่งขันสำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และคนทำธุรกิจ 

การพัฒนาโครงการที่มุ่งมั่นสร้างความเสียหายน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ต่อสภาพแวดล้อมที่กำลังถูกคุกคาม จะทำให้คุณมีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งที่ยังคงพัฒนาอาคารแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเมื่อเมืองกว่า 700 แห่ง ใน 70 ประเทศ ได้ตั้งเป้าหมาย Net Zero ของตัวเอง ทำให้นโยบายตลอดจนกฏหมายด้านความยั่งยืน เช่น การเก็บภาษีคาร์บอน มีความเข้มงวด รัดกุม และชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ นับจากนี้

ในตลาดเกิดใหม่บางประเทศ เช่น โคลอมเบียและเวียดนาม ด้วยการผลักดันอย่างเข้มข้นรวมกับสิทธิประโยชน์และสิ่งจูงใจทางการเงินจากรัฐบาล ทำให้ปัจจุบัน 8 เปอร์เซ็นต์ของการก่อสร้างอาคารใหม่ได้รับการรับรอง EDGE ว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย EDGE ได้รับรองอาคารไปแล้วกว่า 1,500 หลัง นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2013

ในประเทศไทยมีหลายโครงการที่ผ่านการรับรอง EDGE เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ La Vista Villas บนเกาะภูเก็ตที่ประกอบไปด้วยวิลล่า 11 หลัง โดยมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนหลังคา ติดพัดลมเพดาน ใช้ระบบทำความเย็นที่มีค่า C.O.P หรือประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องสูง ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน พร้อมด้วยการติดตั้งสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำที่มีอัตราการไหลของน้ำต่ำกว่า หรือใช้น้ำน้อยลงต่อการล้างหนึ่งครั้ง และใช้คอนกรีตมวลเบา (AAC) ซึ่งใช้วัตถุดิบในการผลิตน้อยกว่าอิฐทั่วไปในการก่อสร้าง

ในภาพรวมจึงคาดการณ์ว่า La Vista Villas จะสามารถลดการใช้พลังงานลง 54 เปอร์เซ็นต์ ลดการใช้น้ำลง 29 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้พลังงานในการวัสดุก่อสร้างลง 36 เปอร์เซ็นต์ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

02 Green Building การลงทุนที่รองรับอนาคต

การสำรวจความคิดเห็นของ Booking.com เมื่อปีที่ผ่านมา นักเดินทาง 76 เปอร์เซ็นต์กล่าวว่าพวกเขาตั้งใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวด้วยความรับผิดชอบมากขึ้น แต่ 29 เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าจะหาตัวเลือกการเดินทางอย่างยั่งยืนได้อย่างไร

Booking.com จึงสร้างตัวกรองและตราสัญลักษณ์ Travel Sustainable ขึ้นบนแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้นักเดินทางมั่นใจว่าตัวเลือกที่พักของพวกเขา ดำเนินการบนพื้นฐานด้านความยั่งยืน โดยอาคารที่พักซึ่งผ่านการรับรอง EDGE จะได้รับตราสัญลักษณ์ Travel Sustainable บนแพลตฟอร์ม Booking.com อัตโนมัติ เนื่องจาก EDGE ได้รับการยอมรับและสนับสนุนทั่วโลกโดย IFC ในเครือธนาคารโลก 

การริเริ่มของ Booking.com เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ในอนาคตการแสดงข้อมูลด้านความยั่งยืนและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแก่ผู้บริโภคจะเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไป

มาตรฐาน EDGE ถูกพัฒนาขึ้นพร้อม EDGE Application ซอฟแวร์วางแผนการลงทุนฟรีที่ใช้งานง่าย ซึ่งจะช่วยคำนวณต้นทุนและระยะเวลาคืนทุนให้ผู้ที่ต้องการก่อสร้างหรือปรับปรุงให้อาคารเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการสามารถประเมินกลยุทธ์ต่างๆ ในการประหยัดพลังงาน น้ำ และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างคุ้มค้าและรวดเร็ว

• หมวดพลังงาน ครอบคลุมการใช้ระบบและเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน การรวมแหล่งพลังงานหมุนเวียน และการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานผ่านมาตรการต่างๆ เช่น แสงสว่างและร่มเงา

• หมวดน้ำ ครอบคลุมการใช้ระบบและเทคโนโลยีการใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การรวมระบบการเก็บน้ำฝนและระบบนำกลับมาใช้ใหม่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การให้น้ำแบบหยด และติดตั้งการไหลแบบต่ำ
  
  
• หมวดวัสดุและทรัพยากร ครอบคลุมการใช้วัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้วัสดุผ่านมาตรการต่างๆ เช่น การรีไซเคิลและการใช้ซ้ำ และการใช้วัสดุที่มี ในท้องถิ่นหรือภูมิภาค

กรณีศึกษา Sheraton Belitung Resort รีสอร์ทบนเกาะเบลิตุง ประเทศอินโดนีเซีย ที่แวดล้อมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพมากมาย รีสอร์ทแห่งนี้คือโครงการแรกที่จะสร้างเสร็จสมบูรณ์ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ Tanjung Kelayang ซึ่งกำหนดโดยรัฐบาลอินโดนีเซีย

• หมวดพลังงาน ภายนอกอาคารติดตั้งอุปกรณ์บังแดดและฉนวนกันความร้อน ระเบียงทางเดินใช้การระบายอากาศตามธรรมชาติ ใช้ระบบทำความเย็นแบบ VRV (Variable Refrigerant Volume) ที่สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณน้ำยาที่เข้าชุดคอยล์เย็นได้อย่างแม่นยำ ตามสภาวะโหลดความร้อนของห้องจริง เพื่อลดการใช้พลังงานของรีสอร์ทลง
  
  
• หมวดน้ำ ห้องน้ำทั้งหมดของรีสอร์ทใช้ชักโครกแบบปุ่มกดน้ำสองปุ่ม หนัก-เบา (Dual-Flush Water Closets) รวมถึงหัวฝักบัวไหลต่ำที่ใช้น้ำน้อยลง และโดยรอบรีสอร์ทใช้การจัดภูมิทัศน์ด้วยพืชท้องถิ่นที่ต้องรดน้ำน้อยลง
  

• หมวดวัสดุและทรัพยากร ผนังภายนอกของรีสอร์ทใช้คอนกรีตมวลเบา CLC (Cellular Lightweight Concrete) ซึ่งมีคุณสมบัติกันความร้อน น้ำหนักเบาใช้พลังงานในการผลิตและขนส่งต่ำกว่า เมื่อเทียบกับอิฐทั่วไป จะต้องสร้างผนังหนากว่าหลายเท่าเพื่อให้ผนังมีคุณสมบัติกันความร้อนใกล้เคียงกับ CLC 

คาดการณ์ว่า Sheraton Belitung Resort จะสามารถลดการใช้พลังงานลง 46 เปอร์เซ็นต์ ลดการใช้น้ำลง 36 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้พลังงานในการวัสดุก่อสร้างลง 56 เปอร์เซ็นต์ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

03 EDGE กุญแจสู่ความยั่งยืนที่ทุกโครงการเข้าถึงได้

เข้าเว็บไซต์ EDGE และกดลิงก์สู่ EDGE Application เพื่อเริ่มสร้างความยั่งยืนให้อาคารและโครงการของคุณ

EDGE Application มีตัวเลือกประเภทอาคารที่หลากหลาย ตั้งแต่สำนักงาน โรงแรม อาคารค้าปลีก อุตสาหกรรมเบา คลังสินค้า โรงพยาบาล สถานที่ศึกษา ไปจนถึงที่อยู่อาศัย โดยสามารถเลือกเจาะลึกลงไปได้อีก เช่น โรงแรมของคุณเป็นโรงแรม 5 ดาว หรือโรงแรมราคาประหยัด 

การระบุข้อมูลชี้ชัดจะช่วยให้การวิเคราะห์กลยุทธ์ปรับปรุงอาคารเป็นไปได้อย่างแม่นยำ

• เลือกพื้นที่ตั้งของโครงการ 

หนึ่งในความพิเศษของ EDGE Application คือการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศและการใช้งานอาคารของเมืองต่างๆ ตามพื้นที่เฉพาะ กล่าวคือโรงแรมในประเทศไทยซึ่งเป็นเขตร้อน ไม่สามารถใช้ชุดการวิเคราะห์เดียวกับโรงแรมในทวีปยุโปรซึ่งเป็นเขตอบอุ่นได้ เพื่อให้ได้กลยุทธ์การปรับปรุงอาคารที่เหมาะสมที่สุดต่อสภาพพื้นที่ตั้ง 

เช่น การเพิ่มร่มเงาให้อาคารเพื่อบังแสงแดด และการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ อาจเหมาะสมกับโครงการในเขตร้อนที่แดดจัด แต่อาจไม่ได้สร้างผลกระทบเชิงบวกมากนักในพื้นที่เขตหนาวที่ไม่ค่อยมีแสงแดด

• ใส่รายละเอียดอื่นๆ ของโครงการ

เช่น จำนวนชั้น พื้นที่ใช้สอย วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง ในส่วนของการคำนวณการปล่อยคาร์บอน คุณจะต้องระบุข้อมูลว่าแหล่งพลังงานของโครงการมาจากไหน โดยสามารถอัปโหลดเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและต้องได้รับการตรวจสอบลงไปใน EDGE Application ได้เลย

อาคารของคุณจะผ่านการรับรอง EDGE ได้ ก็ต่อเมื่อมีคะแนนผ่านตามเกณฑ์ในแต่ละหมวด โดยเวลาที่ใช้ในการพิจารณาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงขนาดและความซับซ้อนของอาคารที่ได้รับการรับรอง ความพร้อมใช้งานของเอกสารและข้อมูลที่จำเป็น ตลอดจนความสมบูรณ์และความถูกต้องของใบสมัครการรับรอง

เจ้าของและผู้บริหารธุรกิจควรเริ่มใช้งาน EDGE Application ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อให้คุณเดินหน้าสู่ตัวเลือกทางการออกแบบที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือสร้างผลกระทบทางบวกที่สุด ภายใต้งบประมาณของต้นทุนที่ต่ำสุด เมื่อเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ คุณก็สามารถจำลองกลยุทธ์ได้หลายโมเดล เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกับความต้องการ งบประมาณ และข้อจำกัดของโครงการที่สุด

รายละเอียดเพิ่มเติม

มาตรฐานการรับรอง EDGE มี 3 ระดับคือ EDGE Certified, EDGE Advanced และ EDGE Zero Carbon

โครงการที่คาดการณ์การประหยัดพลังงาน การใช้น้ำ และพลังงานในวัสดุก่อสร้างได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับมาตรฐานอาคารท้องถิ่นจะได้รับการรับรอง EDGE Certified

โครงการที่คาดการณ์การประหยัดพลังงานในสถานที่ 40 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป รวมถึงประหยัดน้ำและพลังงานในวัสดุก่อสร้างอย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับการรับรอง EDGE Advanced

โดยโครงการที่ได้รับการรับรอง EDGE Advanced ซึ่งใช้พลังงานทดแทนหรือซื้อคาร์บอนชดเชย 100 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับการรับรอง EDGE Zero Carbon