16 ธันวาคม 2562
ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร
ที่มา
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Program - UNDP) จัดงานประกาศแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๕) เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ ห้อง Conference Room 2 ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ (UN Conference Center) ถนนราชดำเนิน กรุงเทพมหานคร
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
๑) ประกาศใช้แผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
๒) สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษชน
๓) ยืนยันเจตนารมณ์และแสดงถึงความตั้งใจจริงของรัฐบาลในการขับเคลื่อนงานด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษชน
ทั้งนี้ กลุ่มผู้เข้าร่วมงานฯ ประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับประเด็นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนกว่า 300 คน
แผนการปฏิบัติการแห่งชาติฯ รัฐดึงภาคธุรกิจร่วมลงมือ เน้นจะไม่ทิ้งใครให้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนไว้ข้างหลัง
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. วิษณุ เครืองาม
รองนายกรัฐมนตรี
ตัวแทนรัฐบาลไทยกล่าวเปิดและปาฐกถาพิเศษ
“สิ่งที่ยากมากกว่าทำแผนให้เสร็จ คือ การขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม หรือเป็นจริงให้ได้ เห็นว่าในแผนนี้มี หลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล และหลักสิทธิมนุษยธรรมอย่างครบถ้วน ขอให้ช่วยกันนำเนื้อหาแผนปฏิบัติแห่งชาติฯ นี้เผยแพร่องค์ความรู้ไปสู่องค์กรธุรกิจทุกกลุ่มอย่างกว้างขวาง
หัวใจหรือสามเสาหลักของแผนปฏิบัติการแห่งชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน คือ การคุ้มครองป้องกัน เคารพ และเยียวยา ที่เป็นหลักแนวการใช้ตลอดแผน
แผนปฏิบัติการนี้มีความท้าทายในบทที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน ซึ่งครอบคลุมเรื่องที่สำคัญ 4 ประการ 1) ด้านแรงงาน 2) ด้านชุมชน ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3) ด้านบทบาทนักปกป้องสิทธิมนุษยชน 4) ด้านการลงทุนระหว่างประเทศและบรรษัทข้ามชาติ ทั้ง 4 ประการนี้ นับวันจะมีบทบาทมากขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน วันนี้เราพูดถึงการลงทุนขนาดใหญ่มากมายที่จะนำความเจริญมาสู่ประเทศชาติ แต่ก็มีโอกาสสร้างผลกระทบต่อ ชุมชน ท้องถิ่น ราษฎร เช่นกัน ดังนั้นธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนจะต้องต้องพึ่งพาอาศัยกันอย่างแยกจากกันไม่ได้ แผนปฏิบัติการนี้ฯ ร่างอย่างสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทั้งแผนปฏิรูปประเทศ นโยบายแห่งรัฐบาล กฎหมายกติกาต่างๆ รวมถึงกรอบความตกลงระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ SDGs (เป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน) จึงเป็นแผนปฏิบัติการที่สมบูรณ์ การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งที่มีภาคธุรกิจเข้ามาเดินเคียงคู่กับภาครัฐไม่ทิ้งใครให้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนไว้ข้างหลัง ทุกคนจะก้าวเดินไปด้วยกันเพื่อความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ของประเทศชาติ
ภาคเอกชนขานรับแผนปฏิบัติการระดับชาติว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน
นางสุนันทา เตียสุวรรณ์
รองนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย
ผู้ประกอบการไทยปัจจุบันมีความตื่นตัวอย่างมากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ การทําธุรกิจที่มีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ดี ยังมี ความท้าทายอีกหลายประการที่ทุกฝ่ายจําเป็นต้องร่วมกันคิดหาทางออกต่อไป
สมาคมฯ เชื่อว่า เมื่อนําแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ ระยะที่ 1 ไปปฏิบัติจริง ก็จะนําไปสู่ ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อนําไปปรับปรุงการยกร่างแผนปฏิบัติการระดับชาติฯ ฉบับต่อๆ ไป ที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของทุกภาคส่วนอย่างแท้จริง สิ่งสําคัญ คือ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในการนี้ สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ขอยืนยันเจตนารมณ์มุ่งมั่นของสมาชิก สมาคมฯ ที่จะเป็นหนึ่งในผู้แทนของภาคเอกชน ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรมและภาคส่วนอื่น ๆ ผลักดัน ให้ดำเนินธุรกิจที่เคารพสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริงในประเทศ เป็นตัวอย่างที่ดีต่อทั้งภูมิภาค และนานาประเทศ อันจะนําไปสู่การพัฒนาที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และยั่งยืนสืบไป