ในงานมหกรรมมหิดลเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2024 (Mahidol University SDGs Showcase 2024) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ดร.ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT) เข้าร่วมเสวนาหัวข้อ “Leveraging SDGs in Mahidol University” ในฐานะเครือข่ายภาคธุรกิจของประเทศไทยที่ขับเคลื่อนการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ตั้งแต่ปี 2018
ดร.ธันยพร เผยถึงผลสำรวจล่าสุดของ UN Global Compact ว่า ซีอีโอจำนวนมากกำลังขยายบทบาทของตนเอง เนื่องจากความจำเป็นทางธุรกิจและความคาดหวังของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ซีอีโอทั่วโลกได้ริเริ่มสร้างความยืดหยุ่นให้กับบริษัท ตั้งแต่การตั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศที่มีฐานวิทยาศาสตร์ (science-based climate targets) การใช้เทคโนโลยีที่ดีขึ้น การสร้างความร่วมมือข้ามอุตสาหกรรม และการเพิ่มความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ ซีอีโอยังเรียกร้องให้รัฐบาลมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ต้องให้ความสำคัญกับเป้าหมายระยะยาวที่สามารถวัดผลได้ อาทิ การกำหนดกรอบการรายงาน ESG และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นไปตามมาตรฐานโลก
อย่างไรก็ตาม 86% ของซีอีโอในเอเชียเชื่อว่า ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ เป็นอุปสรรคที่ทำให้การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนทำได้ยากลำบาก เนื่องจากบริษัทต้องการความร่วมมือและการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรอบด้าน ที่จะช่วยกันสร้างระบบนิเวศให้ภาคธุรกิจยังคงเติบโต พร้อมไปกับการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม
สมาคมฯ จึงให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายระหว่างกันและส่งเสริมองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจหมุนเวียน ความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมา 133 องค์กรสมาชิกมีการประกาศเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างน้อย 1 ล้านคน ภายในปี ค.ศ. 2030 และมุ่งมั่นที่จะลงทุนกว่า 46,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเร่งบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ปกป้องพื้นที่ทางบกและทะเลของชาติให้ได้หนึ่งในสาม และบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
ในขณะเดียวกัน บริษัทไทยหลายแห่งมีการตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสร้างพอร์ตโฟลิโอด้านการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของตนเองให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งชาติอีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการจัดทำ Green Taxonomy และ คู่มือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน สำหรับบริษัทจดทะเบียนไทย” (SDG Guidebook for Thai Listed Companies) เป็นแนวปฏิบัติสำหรับบริษัทจดทะเบียนไทยในการผนวกแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนเข้ากับกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจขององค์กร
ดร.ธันยพร เน้นย้ำว่า อนาคตของความยั่งยืนยังขึ้นอยู่กับการลงทุนและบ่มเพาะเยาวชน ทางสมาคมฯ และสมาชิก UNGCNT ได้ร่วมจัดทำโครงการ SI SPHERE มุ่งบ่มเพาะทักษะและเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนในสังคมยุค 5.0 ในด้านเทคโนโลยีที่ควบคู่กับการตระหนักรู้ด้านความยั่งยืน ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยมหิดล (MU) ศิษย์เก่า และภาคเอกชนจะยิ่งทำให้เกิดให้เกิดการผลักดันที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทยในการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ ภายในงานมีการนำเสนอผลงานวิทยานิพนธ์ที่มีความโดดเด่นในการขับเคลื่อนนโยบาย SDGs จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำ ได้แก่
-
การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์และต้นทุนทางสุขภาพของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในประเทศไทย (นางเมวาลินญ์ ชุมสาย ณ อยุธยา)
-
Biodegradation of plastic by actinomycetes isolated from soils and plastic wastes in Thailand (Ms. Kawinthip Wichatham)
-
Spatially differentiated health impacts and costs of fine particulate matter formation from agricultural waste management in Thailand (Ms. Aakriti Deuja)
-
Using Bio-Based Hybrid Granular Activated Carbon for Adsorption of Uremic Toxins to Regenerate Dialysate in Hemodialysis System (Ms. Nuttawan Arpasopana)