การประชุม UNGC Leader Summit 2024 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเสวนาในหัวข้อ “การเชื่อมโยงช่องว่างระหว่างรัฐบาลและธุรกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายสภาพภูมิอากาศโลก” (Bridging the Gap Between Government and Business to Meet Global Climate Goals) #Leader Summit ตอกย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนบทบาทของเครือข่ายระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่เป็นเวทีสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือและการมีส่วนร่วมระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ รวมถึงองค์กร ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา เพื่อเร่งเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศโลก

ดร.ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (UNGCNT) หนึ่งในผู้ร่วมเสวนาได้หยิบยกประสบการณ์ของ UNGCNT ในประเทศไทย มาแลกเปลี่ยนในเวทีดังกล่าว ฉายให้เห็นภาพบทบาทของ UNGCNT ในการเชื่อมโยงและสร้างการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเป้าหมายสภาพภูมิอากาศโลก ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ดังนี้
การเชื่อมโยงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่แตกต่างกัน (Connecting Different Stakeholders) ผ่านโครงการริเริ่มต่างๆ ได้แก่
- การเสวนาของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การประชุมหรือเสวนาโต๊ะกลมที่ตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ สามารถหารือเกี่ยวกับปัญหาด้านสภาพภูมิอากาศ แบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด และพัฒนาแนวทางแก้ไขร่วมกัน
- โปรแกรมเสริมสร้างขีดความสามารถ การฝึกอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนไปใช้ อย่างสอดคล้องกับหลักการของ UN Global Compact
- การสนับสนุนและการมีส่วนร่วมด้านนโยบาย การมีส่วนร่วมกับรัฐบาลและผู้กำหนดนโยบายเพื่อส่งเสริมนโยบายและกฎระเบียบที่สนับสนุนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืน
การเพิ่มอิทธิพลสูงสุด เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกให้ได้มากที่สุด (Maximizing Influence)
- ส่งเสริมความร่วมมือที่แข็งแกร่ง สร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับองค์กรและบุคคลสำคัญเพื่อขยายขอบเขตการเข้าถึงและผลกระทบ
- ใช้ประโยชน์จากความรู้ในท้องถิ่น นำความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทและความท้าทายในท้องถิ่นมาปรับใช้กับโครงการเพื่อให้มีความเกี่ยวข้องมากขึ้น
- วัดผลและติดตามความคืบหน้า ประเมินประสิทธิผลของโครงการอย่างสม่ำเสมอและปรับปรุงตามความจำเป็นเพื่อให้มั่นใจว่ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- ส่งเสริมนวัตกรรมและความร่วมมือ สนับสนุนการพัฒนาและการสร้างสรรค์ทางออกเชิงนวัตกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ
- มีส่วนร่วมกับเครือข่ายทั่วโลกของ UN Global Compact ร่วมมือกับเครือข่ายประเทศอื่นๆ และสำนักงานใหญ่ของ UN Global Compact เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทั่วโลก
ดร.ธันยพร เน้นย้ำว่า หากเครือข่ายในแต่ละประเทศสามารถเชื่อมโยงภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้กลยุทธ์ที่กล่าวมา จะสามารถสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งยกตัวอย่างการทำงานร่วมกับภาครัฐของสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย (UNGCNT) ดังนี้
1. ความร่วมมือในการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ
- ร่วมมือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาแผนงานระดับชาติสำหรับการดำเนินงานตามข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ร่วมมือกับกรุงเทพมหานครเปิดตัว “แผนปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกรุงเทพมหานคร” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและส่งเสริมการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน
2. การส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ยั่งยืน
- ทำงานร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดตัว “ดัชนีการรายงานความยั่งยืน” เพื่อสนับสนุนให้บริษัทจดทะเบียนนำแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนมาใช้และรายงานผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
3. การเสริมสร้างขีดความสามารถและการแบ่งปันความรู้
- จัดโปรแกรมการฝึกอบรมและการประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้นำทางธุรกิจในหัวข้อต่างๆ เช่น การจัดซื้อจัดจ้างอย่างยั่งยืน การจัดการความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศ และการรายงานผลการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)
- อำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียชาวไทยและผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในความยั่งยืน
4. การสนับสนุนและมีส่วนร่วมด้านนโยบาย
- ร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อสนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนและการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ
- ให้ข้อมูลเพื่อพัฒนาแผนการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับชาติของประเทศไทยและกลยุทธ์การลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
5. ความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย
- รวบรวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา จัดตั้ง “Thailand Climate Action Platform” ทำหน้าที่เป็นเวทีสำหรับความร่วมมือและการดำเนินงานร่วมกันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- ร่วมมือกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เพื่อดำเนินงาน “ศูนย์กลางการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืน” ในประเทศไทย
ตัวอย่างเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ UNGCNT ในการเชื่อมช่องว่างระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ และสร้างบทบาทเชิงรุกในการส่งเสริมความยั่งยืนและการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย
ขณะเดียวกันเมื่อมองไปข้างหน้า ดร.ธันยพร ได้ชี้ให้เห็นถึงประเด็นสำคัญที่เครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย (UNGCNT) และพันธมิตรต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและนโยบายสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย ได้แก่
1. การเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net-Zero Transition)
- สนับสนุนธุรกิจในการกำหนดเป้าหมายและบรรลุเป้าหมายตามหลักวิทยาศาสตร์ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ส่งเสริมการนำพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีประหยัดพลังงานมาใช้
- ส่งเสริมการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนการสร้างห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
2. การปรับตัวและความยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Adaptation and Resilience)
- ช่วยเหลือธุรกิจและชุมชนในการประเมินและจัดการความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศ
- ส่งเสริมการพัฒนาและการดำเนินการตามกลยุทธ์การปรับตัว
- สร้างความสามารถในการเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อภัยพิบัติ
3. การแก้ปัญหาโดยใช้ธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-Based Solutions)
- รณรงค์การอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติ
- ส่งเสริมการใช้วิธีแก้ปัญหาที่อิงธรรมชาติ เพื่อบรรเทาและปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศ
- สนับสนุนให้ธุรกิจบูรณาการประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพเข้ากับการดำเนินธุรกิจ
ด้วยข้อดีของประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งใกล้เส้นศูนย์สูตร และมีความหลากหลายทางชีวภาพสูงสุดในโลก ไทยจึงมุ่งเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในขณะที่การลงทุนในวิธีแก้ปัญหาที่อิงธรรมชาติจะกลายเป็นประโยชน์ของบริการระบบนิเวศ ซึ่งเป็นคุณค่าเชิงบวกต่อโครงการเชิงกลยุทธ์ระยะยาว
4. การเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance)
- ส่งเสริมการไหลเวียนของเงินทุนไปสู่การลงทุนที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ
- ส่งเสริมการพัฒนาพันธบัตรสีเขียวและเครื่องมือทางการเงินที่ยั่งยืนอื่นๆ
- สนับสนุนธุรกิจในการปรับกลยุทธ์ทางการเงินให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ
5. การสนับสนุนนโยบายและการมีส่วนร่วม (Policy Advocacy and Engagement)
- ร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการสนับสนุนนโยบายที่สนับสนุนการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ
- ให้ข้อมูลในการพัฒนากลยุทธ์และนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับชาติ
- ส่งเสริมการนำข้อตกลงและกรอบการทำงานด้านสภาพภูมิอากาศระหว่างประเทศมาใช้
6. ความร่วมมือและพันธมิตร (Collaboration and Partnerships)
- เสริมสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ องค์กรภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษา
- อำนวยความสะดวกในการแบ่งปันความรู้และความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- สร้างเครือข่ายผู้นำและผู้สนับสนุนด้านสภาพภูมิอากาศที่เข้มแข็งในประเทศไทย
“ด้วยการมุ่งเน้นประเด็นสำคัญเหล่านี้ UNGCNT และพันธมิตร มีเป้าหมายเพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านของประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และพร้อมรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว” ดร.ธันยพร กล่าวทิ้งท้าย
