งานประกาศรางวัล Women’s Empowerment Principles (WEPs) ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นทุกสองปีได้มอบรางวัลให้แก่ 18 องค์กรธุรกิจในไทย ที่ส่งผลงานและแนวทางการดำเนินกิจการโดดเด่นในด้านการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในทุกส่วนของห่วงโซ่คุณค่า โดยปีนี้ สมัครเข้ามาจำนวน 64 ผลงาน จากองค์กรธุรกิจทั่วประเทศไทย โดยมีตั้งแต่บริษัทขนาดใหญ่ไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
งานประกาศรางวัล WEPs Awards ประจำปี 2567 ที่ UN Women จัดขึ้นได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้า (DFAT) รัฐบาลออสเตรเลีย อีกทั้งยังได้ร่วมจัดกับองค์กรภาคีที่สนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของผู้หญิงในไทย ได้แก่ องค์กร Advantage Austria Bangkok สมาคมการค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทย สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็คแห่งประเทศไทย (UN Global Compact Network Thailand)
คริสตีน อาหรับ ผู้อำนวยการ UN Women สำนักงานภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกและผู้แทนประจำประเทศไทย กล่าวว่า "รางวัล WEPs Awards ไม่ได้เป็นเพียงการยกย่องแนวทางการดำเนินธุรกิจเพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งแรงบันดาลใจและแรงขับเคลื่อนให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ ซัพพลายเออร์ พนักงาน ลูกค้า และผู้ประกอบการคนอื่น ๆ ในอนาคต ที่ต้องการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างความยืดหยุ่นให้แก่องค์กร พร้อมผลักดันเศรษฐกิจไทยและประเทศต่าง ๆ ให้เดินหน้าได้อย่างยั่งยืน ในประเทศไทยเองสัดส่วนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้บริหารและ CEO อยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับโลก สิ่งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลและภาคเอกชนในการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและเสริมพลังให้แก่ผู้หญิง”
เพื่อแสดงความขอบคุณผู้นำหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญต่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและศักยภาพของผู้หญิงในปีนี้ UN Women ได้มอบโล่เกียรติยศให้แก่ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเชิดชูองค์กรภาครัฐที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ความยั่งยืน และส่งเสริมหลักการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิง
มิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานสหประชาชาติประจำประเทศไทย ยังได้เสริมต่ออีกว่าความเสมอภาคระหว่างเพศคือฟันเฟืองสำคัญต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และยังได้ยกย่องประเทศไทยในฐานะผู้นำด้านความเสมอภาคระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน ซึ่งมีสัดส่วนผู้หญิงที่เป็น CEO ร้อยละ 41 และ CFO ร้อยละ 43
ภายในงานมีการมอบรางวัลให้แก่ผู้บริหารระดับสูงและผู้นำองค์กรวิสัยทัศน์ไกล และแนวทางการดำเนินกิจการเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศในด้านต่าง ๆ ขององค์กรธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบนโยบายให้ครอบคลุมและตอบโจทย์พนักงานทุกเพศ การนำมิติทางเพศไปพัฒนาสินค้า บริการ และห่วงโซ่คุณค่า รวมถึงการจัดทำโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมที่ส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ การรายงานความโปร่งใสโดยผนวกมิติทางเพศเข้าไป และการจัดการเงินอย่างมีนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัล SME Champion ให้แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่นำหลักการ WEPs ไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์
องค์กรที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากแต่ละสาขาทั้ง 7 องค์กรยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศ ไทยเข้าชิงรางวัล WEPs Awards ในระดับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกร่วมกับผู้ชนะจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งจะมีการประกาศผลในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ และถ่ายทอดสดผ่านช่องทาง UN Women Asia-Pacific
“การเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับผู้หญิงจะช่วยให้เศรษฐกิจในเขตลุ่มแม่น้ำโขงมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น การเพิ่มศักยภาพของธุรกิจที่ผู้หญิงเจ้าของและวิสาหกิจที่คำนึงถึงความเสมอภาคระหว่างเพศเป็นกุญแจสำคัญสู่เศรษฐกิจที่ครอบคลุมและภาคธุรกิจที่มั่นคง” ดร.แองเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวเสริม
เครือข่าย Women’s Empowerment Principles (WEPs) มีบริษัทจากทั่วโลกมากกว่า 10,000 องค์กรเข้าร่วมแล้ว เพื่อนำแนวทางและหลักการเสริมสร้างศักยภาพของผู้หญิงไปปรับใช้และพัฒนาสถานที่ทำงาน ตลาด และชุมชน ในประเทศไทยมีบริษัทจากทุกขนาดเข้าร่วมเครือข่ายธุรกิจนี้แล้วกว่า 150 องค์กร โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มโอกาสที่เท่าเทียม สร้างความร่วมมือและค้นหาโซลูชั่นที่แตกต่างหลากหลาย เพื่อผลักดันความก้าวหน้าในด้านความเสมอภาคระหว่างเพศ ยกระดับความรับผิดชอบขององค์กร และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนทั้งในประเทศไทยรวมถึงภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกแปซิฟิก
ผู้นำและองค์กรธุรกิจที่ได้รับรางวัลทั้ง 7 สาขาในประเทศไทย ได้แก่:
สาขาผู้นำองค์กรที่สนันสนุนความเสมอภาคระหว่างเพศ
สาขาสถานที่ทำงานที่มีความความเสมอภาคระหว่างเพศ
สาขาการตลาดที่คำนึงถึงมิติทางเพศ
สาขาการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศผ่านกิจกรรมชุมชนและอุตสาหกรรม
สาขาความโปร่งใสและการรายงาน
สาขาการจัดการเงินอย่างมีนวัตกรรมเพื่อความเสมอภาคทางเพศ
รางวัล SME Champion