กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ไม่หยุดพัฒนาและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ที่เสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ ‘กลุ่มเทคโนโลยีทางการเงินระดับภูมิภาคที่น่าชื่นชมที่สุด (The Most Admired Regional Financial Technology Group)’
โดยกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืน 4 เสาหลัก ‘เมล็ดพันธุ์ดิจิทัล สังคมแห่งโอกาส เศรษฐกิจเพื่ออนาคต และภูมิอากาศที่ยั่งยืน’
ภายใต้พันธกิจ ‘ทุกคนมีโอกาส ทุกวันเป็นไปได้ (Opportunities for Everyone, Possibilities Everyday)’
กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ พัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ช่วยเสริมสร้างโอกาสการเข้าถึงทางการเงินให้กับคนไทยอย่างทั่วถึง ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลทางการเงิน อาทิ แอปพลิเคชัน ‘ฟินนิกซ์ (FINNIX)’ แอปพลิเคชัน ‘มันนี่ทันเดอร์ (MoneyThunder)’ ที่นำเทคโนโลยี AI/ ML มาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล และนำข้อมูลทางเลือก (Alternative Data) มาใช้สำหรับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งสามารถส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่กลุ่มที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อในระบบมากกว่า 1.6 ล้านคน ด้วยอัตราหนี้เสีย (NPL) ที่อยู่ในระดับต่ำกว่าตลาด
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) จากการดำเนินงานภายในปี 2030 และจากการให้สินเชื่อและการลงทุนภายในปี 2050 โดยเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ตั้งเป้าหมายสู่ Net Zero ตามแนวทางของโครงการกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi)
เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2030 กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ดำเนินโครงการติดตั้ง Solar Rooftop โครงการเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวน 3,017 เครื่อง ภายในปี 2027 โครงการปรับเปลี่ยนสู่ยานยนต์ไฟฟ้า 100% ภายในปี 2028 โครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2030
ขณะเดียวกัน ยังสนับสนุนธุรกิจและโครงการที่มุ่งบรรเทาผลกระทบหรือปรับตัวเพื่อรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผ่านการนำเสนอโซลูชันทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยธนาคารไทยพาณิชย์ได้อนุมัติสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนรวมแล้วกว่า 124,000 ล้านบาท*
กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ พร้อมผสานศักยภาพด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศทางการเงินที่ทั่วถึงสำหรับทุกคน และสนับสนุนทุกภาคส่วนในการเร่งรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ..เติบโตสู่โลกธุรกิจแบบใหม่อย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
*(ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2024) จากเป้าหมาย 150,000 ล้านบาท ระหว่างปี 2023-2025