SDGs Young Creator: “ต่างกันอย่างเข้าใจ สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน” กิจกรรมด้านเยาวชนและธุรกิจและสิทธิมนุษยชน

ในการขับเคลื่อนประเทศเปรียบได้กับการผสมผสานอาหารจานหนึ่งให้ออกมามีรสชาติที่ตรงตัวอย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งวัตถุดิบที่สำคัญที่สุด “เยาวชน” มีจำนวนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดในประเทศไทย ในขณะที่พวกเขาคือ ผู้เปี่ยมไปด้วยพลังในการขับเคลื่อนสังคมให้เป็นหนึ่งเดียวเสมือนผู้กุมอนาคตของประเทศ บทบาทของพวกเค้ามีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้กำหนดนโยบาย และนักสร้างนวัตกรรม

เยาวชนไทยจำนวนมากต้องเผชิญอุปสรรคในการทำหน้าที่เป็น “Heroes of tomorrow” จากรายงานดัชนี ความเป็นอยู่ที่ดีของเยาวชนโลก (Global Youth Wellbeing Index) ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 26 จาก 29 ประเทศ อันดับที่รั้งท้ายนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายของประเทศ ในการเพิ่มพื้นที่เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชน โดยผลของดัชนีดังกล่าวได้ระบุถึง ข้อจำกัดทางกฎหมายและนโยบายที่มีอยู่ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ 2550 ที่จำกัดความสามารถของเยาวชนและสื่อในการเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน และมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจเชิงนโยบายเเละนอกจากนั้น “ธุรกิจ” เองที่ยังดำเนินอยู่นั้น คืออีกหนึ่งเสี้ยนหนามที่สร้างความเบียดเบียนต่อเยาวชนและละเมิดทุกสิทธิของผู้คนในสังคมอยู่

ในด้านเเรงงาน

การละเมิด:การใช้เเรงงานเด็กหรือเยาวชนในการสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยเเละเป็นธรรม

ตัวอย่าง: ค่าจ้างที่ตำกว่าค่าครองชีพ, ชั่วโมงทำงานที่เกินกฎหมาย, สภาพเเวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย, การบังคับทำงานเเรงงานเด็ก, การละเมิดทางอารมณ์สุขภาพจิต

ในด้านชุมชน

การละเมิด:กิจกรรมทางธุรกิจลุกล้ำพื้นที่เเละวิถีชีวิตของชุมชนหรือชนเผ่าพื้นเมือง

ตัวอย่าง: การเข้ามาตั้งกิจกรรมส่งผลกระทบชุมชน ความปลอดภัย คนในชุมชนตกงาน  และเเย่งงานชุมชนหรือการเลิกจ้างพนักงานในชุมชนอย่างไม่เป็นธรรม

ในด้านสิ่งเเวดล้อม

การละเมิด:มลพิษเเละด้านการทำลายจากการดำเนินงานภาคอุตสาหกรรม       

ตัวอย่าง: มลพิษจากโรงงานในนิคมอุตสาหกรรทระยอง ที่เชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพในเด็กเเละเยาวชน

ผลกระทบต่อเยาวชนคือ เยาวชนถูกเอาเปรียบขาดโอกาสทางการศึกษาไม่มีอาชีพที่มั่นคงในพื้นที่ของตัวเอง สูญเสียอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ขาดความต่อเนื่องทางการศึกษา ปัญหาสุขภาพระยะยาว อนาคตที่ไม่เเน่นอนของเยาวชนผู้คนในชุมชนเกษตรเเละอื่นๆ ทั้งหมดที่กล่าวมาคือสาเหตุ สารตั้งตนที่สำคัญ ที่ประชาชนไหลออกจากพื้นที่ที่ควรเป็นรากฐาน จุดเริ่มต้นเเละต้นทุนชีวิตที่พวกเขาควรได้รับ

ส่งผลให้ความเปราะบางทางเศรษฐกิจและสังคม ทวีความรุนแรงขึ้นหลายเท่า ทั้งยังลดทอนโอกาสในการมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน (BHR) รวมถึงส่งผล ให้เสียงของเยาวชนกลุ่มดังกล่าวต้องถูกละเลยหายจากเวทีสำคัญในการเจรจากับภาคธุรกิจและภาครัฐ เวิร์คชอปนี้จะพาทุกคนไปรู้จักอีกมุมของกลุ่มกลุ่มเปราะบาง อย่างเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต้องเผชิญอุปสรรคจากผลกระทบจากการเลือกปฏิบัติ การถูกกีดกันจากกระบวนการพัฒนา และการขาดการรับรององค์ความรู้และวิถีชีวิตดั้งเดิมของตน จากเยาวชน

Che Kha Ti Kha ผู้กอบกู้เเห่งชนเผ่าอาข่า : พี่อาร์ตเด็กหนุ่มผู้เติบโตผ่านวัฒนธรรมชนเผ่าอาข่า

เมื่อเขาโตขึ้นเขาพบว่าวัฒนธรรมภูมิปัญญาค่อยๆเลือนลางจากหายไปตามการเวลาเนื่องจากไม่มีผู้สืบทอดเเละผู้เผยเเพร่ต่างก็เริ่มเเก่ชราเเละสภาพบ้านเมืองที่ทำให้การสร้างอัตลึกษณ์ขึ้นมากลายเป็นเรื่องที่ยาก ผู้คนทั้งหนุ่ม ทั้งสาว เริ่มทยอยออกไปทำงานต่างถิ่นด้วยปัญหาทางการเงิน การเมือง

เเต่นั่นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของพี่อาร์ตเอง เขาพบว่า “วัฒนธรรมอะ มันอยู่มามากกว่าพันปี อยู่ดีๆ ผมจะปล่อยให้มันหายได้ไง เสียดายเเย่” พี่อาร์ตกล่าว เขาเองจะไม่ยอมให้มันหายไป พี่อาร์ตมีความสามารถด้านศิลปะ การท้อผ้า จักรสาน ต่อไม้ ตัดไม้ เขาเองที่สามารถสานสัมพันธ์ชนรุ่นเก่าเเละเยาวชนด้วยกันได้ จึงกลายมาเป็นผลิตภัณฑ์ร่วมสมัยที่ยึดหลักรากเหง้าเดิมมาดัดเเปลง พี่อาร์ตมองว่าเขาสามารถทำให้ธุรกิจนี้เป็นได้มากกว่าธุรกิจ เขามองเห็นภาพอัตลักษณ์ท้องถิ่นของเค้าซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เขาปั้นมาเองกลับมือ เขาเชื่อว่าสิ่งที่เขาทำจะยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนก่อนให้เกิดเศรษฐกิจชุมชนเเละที่สำคัญ che ka ti kha จะต้องกลายเป็นเเบรนด์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับชุมชน

seeds journey เส้นทาง...ของเมล็ดพันธุ์ : พี่น้ำคือเด็กสาวชาวเขาที่โตมากับวัฒนธรรมชนเผ่าภูเขาสูง

พี่น้ำอาศัยอยู่บนเขาในจังหวัดเชียงใหม่ พี่น้ำพบว่าร้านอาหารหลายๆแห่งในเชียงใหม่ขาดกลิ่นอายวัฒนธรรมเเบบเมื่อก่อน ความหลากหลายของวัฒนธรรมเเละระบบอาหารเริ่มหายไปอีกครั้งเเละคนรุ่นใหม่ชาติพันธุ์กลับบ้านเกิดไม่ได้เพราะไม่มีอาชีพรองรับ สิ่งนี้จุดประกายบางอย่างใสตัวพี่น้ำ พี่น้ำต้องการเปลี่ยนเเปลง จึงกลายมาเป็น Seeds journey ที่จะมอบความรู้เเละถ่ายทอดวัฒนธรรมสู่ผู้คนในพื้นที่เเละผู้คนที่สนใจอาหารชาติพันธุ์ดั้งเดิมของเชียงใหม่ เเละเพื่อสร้างอาชีพที่ยั่งยินให้เเก่คนรุ่นใหม่ในสังคม พี่น้ำจึงมุ่งหน้าเติมที่ด้วยการเชื่อมทั้งคนเเละคนนอกด้วยอาหารเเละเรื่องเล่าเพื่อฟื้นฟูวัฒนธรรมอาหารเเละวัตถุดิบในท้องถิ่น

เวิร์คชอปนี้คือกระบอกเสียงที่เเท้จริง เพื่อเยาวชนที่ไม่มีโอกาส ถูกเลือกปฎิบัติ เเละที่ได้รับผลกระทบจากธุรกิจ เป็นพื้นที่เพื่อเสริมพลังเยาวชนให้เข้าใจเเละมีส่วนร่วมในวาระธุรกิจกับสิทธิมนุษย์ ส่งเสริมการเเลกเปลี่ยนเยาวชนชาติพันธุ์เเละเยาวชนในเมือง นำเสนอท้องถิ่นเเละความหลากหลายทางวัฒนธรรมเเละที่สำคัญที่สุด เวิร์คชอปนี้เเสดงให้เห็นถึงความสำคัญกับกลุ่มคนที่เเม้จะเป็นเเค่เยาวชน เเต่พวกเขาคือเเรงขับเคลื่อนที่เเท้จริงของทุกสังคมในฐานะ heroes of tomorrow