ลอรีอัล (L'Oréal) คือหนึ่งในตัวอย่างขององค์กรที่มีการวางรากฐานสู่การเป็นบริษัทที่นำความยั่งยืนมาเป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ และประสบความสำเร็จเป็นรูปธรรม
องค์กรสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโรงงานและศูนย์กระจายสินค้าลงถึงร้อยละ 78 ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2005 ถึง ปี ค.ศ. 2020 และสถานประกอบการถึง 72 แห่ง มีความเป็นกลางคาร์บอน และใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 100
ลอรีอัลกำหนดโปรแกรมเพื่อความยั่งยืนปี ค.ศ. 2030 ในชื่อ “L’ORÉAL FOR THE FUTURE” เพื่อยกระดับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมทั้งการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติควบคู่กับการส่งเสริมให้ผู้บริโภคและคู่ค้าทางธุรกิจ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลง
จากลอรีอัลสู่ผู้บริโภคและพันธมิตร
ลอรีอัลเดินหน้าพาทั้งองค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำให้โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าทุกแห่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอน และใช้พลังงานทดแทนร้อยละ 100 ภายในปี ค.ศ. 2025 โดยในปี ค.ศ. 2021 ประสบความสำเร็จแล้วร้อยละ 58 รวมถึงศูนย์กระจายสินค้าและสำนักงานในประเทศไทย ซึ่งในปี ค.ศ.2021 บรรลุเป้าหมายแล้วร้อยละ 21
เป้าหมายปี ค.ศ. 2030 การทำให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมดร้อยละ 100 มาจากพลาสติกรีไซเคิลหรือจากวัสดุชีวภาพ
การนำน้ำจากกระบวนการผลิตในโรงงานกลับมาใช้ในระบบหมุนเวียนร้อยละ 100 ในปี ค.ศ. 2021 บรรลุเป้าหมายแล้วร้อยละ15 และการทำให้ส่วนผสมในสูตรร้อยละ 95 มาจากแหล่งชีวภาพ แหล่งแร่ธาตุที่มีมาก หรือจากกระบวนการหมุนเวียน ซึ่งสำเร็จแล้วถึงร้อยละ 60
การสนับสนุนให้เกิดความยั่งยืนตลอดระบบนิเวศทางธุรกิจ ลอรีอัลพัฒนาการแสดงข้อมูลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของผลิตภัณฑ์ในรูปแบบของคะแนนความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคกว่า 1.5 พันล้านคนทั่วโลก ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนมากขึ้น และด้านการช่วยเหลือสังคม ตั้งเป้าหมายช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทั่วโลกจำนวน 100,000 คนให้เข้าถึงอาชีพมีรายได้มั่นคง ซึ่งในช่วงปี ค.ศ. 2013-2020 ได้ช่วยเหลือไปแล้วเกือบ 100,000 คน