แบรนดิ สมการค่าตอบแทนที่เป็นธรรม เพื่อชีวิตยั่งยืน

Labour
แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจด้านกลยุทธ์ระดับองค์กร ด้วยประสบการณ์มากกว่า 10 ปี ด้านการทรานส์ฟอร์มองค์กร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต และการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วย Triple Bottom Line (3P) คือ  คน (People) โลก (Planet) และ กำไร (Profit) แบรนดิได้สร้างผลกระทบเชิงบวกในธุรกิจแล้วมากกว่า 28 อุตสาหกรรม ตลอดจนได้ร่วมมือกับองค์กรและผู้นำทางความคิดที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศเช่นWorld Economic Forum และ United Nations วันนี้แบรนดิจึงมีทั้งองค์ความรู้ที่ตกผลึกและโมเดลกลยุทธ์เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ที่ช่วยให้ ‘เห็นภาพใหญ่ได้ใกล้มากขึ้น’ เข้าใจบริบทและแนวโน้มความเป็นไปต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งการเติบโตและความเสี่ยง

"สร้างสภาพแวดล้อมที่คล่องตัวและเอื้ออำนวยให้ธุรกิจและบุคลากรสามารถเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน”

ปิยะชาติ  อิศรภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนดิ แอนด์ คอมพานีส์ จำกัด 




สมการที่แยกจากกันไม่ได้
แบรนดิ เชื่อว่า การจะปรับองค์กรหรือธุรกิจให้ไปสู่เป้าหมายเพื่อความยั่งยืนได้อย่างแท้จริงได้นั้น สิ่งสำคัญที่สุด คือ ‘Mindset’ ซึ่งต้องเป็นชุดความคิดที่มุ่งมั่นต่อการสร้างคุณค่าจากภายในออกสู่ภายนอก (Inside Out) และการรับคืนคุณค่าจากภายนอกเข้าสู่ภายใน (Outside In)  โดย Mindset ที่ถูกต้องนี้ ควรเริ่มจาก ‘ผู้นำ’ ขององค์กร ที่จะต้องกลัดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกไม่มองเรื่องของ “คน” เป็นเพียงทรัพยากร (Resource) แต่ต้องมองให้ทุกอย่างสัมพันธ์กันในรูปแบบของต้นทุน (Capital) และต้องเป็นทุนที่มีคุณภาพ เพื่อใช้เป็นกลไกการขับเคลื่อนองค์กรในฐานะองค์กรที่ปรึกษา ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงด้านการสรรหาบุคลากร (Talent War) แบรนดิให้ความสำคัญกับการสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถและประสบการณ์สูง มาช่วยผลักดันศักยภาพขององค์กร ด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และสามารถส่งมอบผลงานให้ได้เหนือความคาดหวัง (Beyond Expectation)  โดยมีวิธีคิดค่าตอบแทนที่เหมาะสมหรือสูงกว่าบริษัทอื่นๆในตลาดเพราะเล็งเห็นว่านี่คือปัจจัยที่กำหนดความได้เปรียบทางการแข่งขัน (Competitive Advantage) ขององค์กร


นอกจากนี้ แบรนดิ ยังเชื่อว่าการพัฒนาความสามารถหรือเพิ่มพูนศักยภาพให้กับบุคลากร เป็นตัวชี้วัดค่าจ้างเพื่อการดำรงชีวิตที่เหมาะสมด้วยเพราะเมื่อบุคลากรมีประสิทธิภาพองค์กรก็จะสามารถทำกำไรและเสนอค่าจ้างที่เหมาะสมได้แต่ถ้าหากบุคลากรขาดการพัฒนาความสามารถองค์กรก็จะไม่เติบโตและไม่สามารถสนับสนุนคุณภาพชีวิตของบุคลากรผ่านค่าตอบแทนที่เหมาะสมได้เช่นกันจึงมีความท้าทายในประเด็นของความไม่สอดคล้องกันระหว่างความสามารถในการสร้างผลผลิตและคุณค่าให้กับธุรกิจ กับค่าจ้างเพื่อการดำรงชีวิต

แบรนดิเชื่อว่าธุรกิจจะต้องสร้างการเติบโตจากภายในก่อนจึงจะสามารถเสนอค่าตอบแทนบุคลากรที่สมสัดส่วนได้และในมิติของบุคลากรจะต้องสร้างรายรับให้ได้มากกว่ารายจ่าย เพราะถ้าหากมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ จากเดิมที่ค่าจ้างเหมาะสมกับมาตรฐานการดำรงชีวิต ก็อาจกลายเป็นขัดสน และไม่ยั่งยืน ค่าจ้างเพื่อการดำรงชีวิต ผลผลิต และความสามารถ จึงถือเป็นสมการที่แยกจากกันไม่ได้


สถาบันแห่งการเรียนรู้ คู่ขนานการทำงาน
แบรนดิไม่เพียงมุ่งเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่ออนาคตให้กับองค์กรเท่านั้นแต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาบุคลากรอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างองค์กรแนวราบ (Flat Organization) หรือทำงานแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์เป็นหลัก(Result-oriented) ซึ่งทำให้เกิดการเติบโตของบุคลากรเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด และไม่ถูกจำกัดโดย อายุ เพศ หรือการศึกษา เรียกได้ว่า แบรนดิสร้าง “สถาบันแห่งการเรียนรู้คู่ขนาน” ที่ทำให้องค์กรเป็นทั้งสถาบันการศึกษา และสถานที่ทำงานไปในขณะเดียวกัน สร้างสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยให้ธุรกิจและบุคลากรสามารถเติบโตไปพร้อม ๆ กันได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ แผนงานในการสนับสนุนให้บุคลากรทุกคนในองค์กรได้รับค่าจ้างที่เหมาะสมกับมาตรฐานการครองชีพที่ดี จึงไม่ใช่การบริหารค่าใช้จ่ายองค์กร แต่คือแผนงานที่ช่วยให้บุคลากรได้พัฒนาความรู้ ความสามารถในการเรียนรู้ ด้วยเหตุนี้ แบรนดิจึงกลายเป็นหนึ่งในองค์กรต้นแบบของโลก ด้านการจ้างงานและพัฒนาทุนมนุษย์สำหรับอนาคต (Future-ready Human Capital) 

ส่งต่อแนวปฏิบัติสู่ลูกค้า
นอกจากการพัฒนาบุคลากรในองค์กรแล้วแบรนดิยังส่งต่อแนวทางการปฏิบัติให้แก่ลูกค้าธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น

  • ธุรกิจพลังงานที่กำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายด้านการเปลี่ยนผ่านพลังงาน (Energy Transition) บุคลากรจำเป็นต้องปรับตัว และพัฒนา Green Skill เพื่อสนองความต้องการของอุตสาหกรรม
  • ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ที่มุ่งคิดค้นวัสดุทางเลือกเพื่อความยั่งยืน อีกทั้งโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยงบุคลากรที่มีความคิดริเริ่ม (Initiative) ทักษะการสร้างสรรค์นวัตกรรม รวมทั้งความสามารถในการมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ จะสามารถช่วยเพิ่ม Productivity ในภาพรวมได้
  • ธุรกิจค้าปลีก ที่ต้องการที่จะยกระดับบริการและเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานมากขึ้น เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ จึงมองหาบุคลากรที่มีความรู้และทักษะทางดิจิทัล (Digital Literacy) และความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ธุรกิจ

เมื่อธุรกิจเติบโตโดยให้ความสำคัญกับบุคลากรเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก (Key Enabler) ซึ่งสะท้อนผ่านค่าจ้างที่เหมาะสมกับมาตรฐานคุณภาพชีวิตที่ดี ธุรกิจจะสามารถส่งมอบคุณค่าและส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมในวงกว้างไม่ว่าจะเป็นการกระจายความมั่งคั่ง (Wealth Distribution) เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ระบบเศรษฐกิจชุมชน และท้องถิ่น ไปพร้อมกับการสร้างรายได้ (Wealth Creation) ให้กับธุรกิจ หรือการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ

ประเด็นค่าจ้างเพื่อการดำรงชีวิตที่เหมาะสม (Living Wage) และความความสามารถในการสร้างผลผลิตของธุรกิจนั้นเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจัยหลักที่ธุรกิจควรคำนึงถึงจึงกลับมาที่คุณภาพของบุคลากรภายในธุรกิจ ซึ่งเป็นผู้กำหนดการเติบโตขององค์กรอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น องค์กรควรมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรเพื่อไปเป็น “ทุนมนุษย์” (Human Capital) ที่มีความสามารถในการเสริมสร้างศักยภาพและประสิทธิภาพของธุรกิจ และเมื่อธุรกิจสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน กล่าวคือสร้างรายได้ไปพร้อม ๆ กับสร้างประโยชน์แก่ผู้คน และสิ่งแวดล้อม ธุรกิจก็จะสามารถยกระดับค่าจ้างที่เหมาะสมกับบริบทเศรษฐกิจและมาตรฐานการครองชีพให้กับบุคลากรได้เช่นกัน

ร่วมเปลี่ยนแปลงโลกกับเรา
UN Global Compact
Network Thailand
APPLY FOR MEMBERSHIP
เกี่ยวกับคุกกี้บนเว็บไซต์นี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์เพื่อปรับปรุง ปรับแต่งเนื้อหา และโฆษณาตามความต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ และ นโยบายสิทธิส่วนบุคคล
Subscribe
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าคุกกี้ในแต่ละประเภทได้ดังต่อไปนี้
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่จำเป็นต่อการให้บริการ
(Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่จะช่วยให้ท่านสามารถเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยของเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้เพื่อการวัดผลการทำงานและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์
(Performance and Functionality Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะถูกใช้เพื่อจดจำท่านเมื่อท่านกลับเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง ช่วยให้เราปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับท่านและจดจำการตั้งค่าของท่าน (เช่น ภาษาหรือภูมิภาคที่ท่านเลือก) แต่ไม่จำเป็นต่อการวัดผลการทำงานของเว็บไซต์
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์หรือเพื่อการปรับแต่ง
(Analytical or Customization Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ใช้งานเข้าสู่เว็บไซต์และออกจากเว็บไซต์ เราใช้ข้อมูลนี้ในลักษณะของข้อมูลโดยรวมเพื่อช่วยให้เราปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์ หรือเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราตามความสนใจของท่านได้