Net Zero 2050 โอกาสใหม่ของธุรกิจไทยบนเวทีโลก

UNGCNT News



ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบายผลักดันประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อรับมือกับการค้าระหว่างประเทศ ด้วยการตั้งเป้าให้ไทยบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 จากเดิมที่มีเป้าหมายจะบรรลุ Net Zero ในปี 2065 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเชิงนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศของไทย 

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ GCNT ในฐานะเครือข่ายท้องถิ่นของโครงการสำคัญในระดับโลกขององค์การสหประชาชาติ UN Global Compact เครือข่ายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก มองว่า การประกาศนโยบายดังกล่าวเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจในประเทศไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ในหลากหลายมิติ

Net Zero 2050: ไม่ใช่แค่เป้าหมาย แต่คือ “เกมใหม่” ของเศรษฐกิจโลก

  • การมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก
  • มาตรฐานคาร์บอนต่ำจะกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญของการค้าโลก โดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ
  • ประเทศหรือธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันจะถูกกีดกันและสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ

ผู้เริ่มก่อน ได้เปรียบก่อน
  • ผู้ประกอบการที่เริ่มลงทุนและปรับตัวตั้งแต่วันนี้จะได้เปรียบในการ:
    • เข้าถึงตลาดใหม่ที่มีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมเข้มงวด
    • เข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขียว (Green Finance)
    • สร้างความยั่งยืนและความเชื่อมั่นในระยะยาว
  • ในทางกลับกัน ผู้ที่รออาจต้องเผชิญต้นทุนการเปลี่ยนผ่านที่สูงขึ้น และความเสี่ยงในการถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
บทบาทของภาครัฐ: เร่งเครื่องนโยบายและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
  • ภาครัฐต้องออกมาตรการสนับสนุนที่ชัดเจน ครอบคลุม และเป็นธรรม
  • ต้องมีนโยบายที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะ SME สามารถเปลี่ยนผ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทบาทของภาคธุรกิจ: คาร์บอนต่ำคือกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์
  • การลดคาร์บอนต้องถูกบูรณาการเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ธุรกิจหลัก
  • ธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะในเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในอนาคต

ทั้งนี้ การเร่งเป้า Net Zero 2050 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมไทย เพราะการเร่ง Net Zero เร็วขึ้น 15 ปี คือ สัญญาณเปลี่ยนเกม

  • การขยับเป้าหมาย Net Zero ให้เร็วขึ้นเป็น จุดเปลี่ยนเชิงนโยบาย ที่จะ “เขย่า” โครงสร้างอุตสาหกรรมไทย
  • โดย UN Global Compact ได้ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ 2021 ว่า: “การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของเศรษฐกิจไทยในโลกอนาคต”
ความท้าทาย: ช่องว่างทรัพยากรและความสามารถในการปรับตัว
  • ผู้ประกอบการรายย่อยและผู้บริโภคบางกลุ่มยังขาดทรัพยากรที่จำเป็นในการเปลี่ยนผ่าน เช่น:
    • เงินทุนสำหรับลงทุนในเทคโนโลยีสะอาด
    • ความรู้และทักษะในการปรับตัว
    • โครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
แนวทางสนับสนุน: ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
  • ภาครัฐควรออกมาตรการช่วยเหลือที่ เฉพาะเจาะจงและเข้าถึงได้จริง เช่น:
    • การให้ความรู้ และสร้างความตระหนักรู้ในระดับชุมชนและธุรกิจ
    • สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลงทุนในเทคโนโลยีลดคาร์บอน
    • เงินสนับสนุนสำหรับผู้มีรายได้น้อย เพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
สู่การเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม (Just Transition)
  • การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำต้องคำนึงถึง ความเป็นธรรมทางสังคม
  • ทุกภาคส่วนต้องมีโอกาสในการปรับตัว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก เกษตรกร หรือแรงงานในอุตสาหกรรมดั้งเดิม

โอกาสและข้อเสนอเชิงปฏิบัติ 
GCNT มองเห็นโอกาสสำคัญ 3 ประการที่ยังไม่ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทานให้กลายเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันได้:

  1. แพลตฟอร์มความร่วมมือระหว่างผู้ซื้อ–ผู้ขายเพื่อรวมความต้องการใช้พลังงานสะอาดและวัสดุคาร์บอนต่ำ
  2. โครงสร้างทางการเงินรูปแบบใหม่เช่น การเงินแบบผสมผสาน (Blended Finance) และเงินกู้ที่เชื่อมโยงกับผลการลดคาร์บอน (Carbon Performance-Linked Loans) เพื่อลดต้นทุนเงินทุนให้กับซัพพลายเออร์
  3. ระบบดิจิทัล MRV (Monitoring, Reporting, Verification)เพื่อให้ธุรกิจสามารถมองเห็นข้อมูลแบบเรียลไทม์ และใช้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ในการตัดสินใจ

ด้วยการปลดล็อกกลไกเหล่านี้ ธุรกิจในประเทศไทยจะสามารถเร่งการลดคาร์บอน ตอบสนองต่อความคาดหวังของตลาดโลก และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในเศรษฐกิจ Net Zero ได้อย่างแท้จริง

บทความโดย ดร.ธันยพร กริชติทายาวุธ ผู้อำนวยการสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT)

ร่วมเปลี่ยนแปลงโลกกับเรา
UN Global Compact
Network Thailand
APPLY FOR MEMBERSHIP
เกี่ยวกับคุกกี้บนเว็บไซต์นี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ เราใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ และการใช้งานของเว็บไซต์เพื่อปรับปรุง ปรับแต่งเนื้อหา และโฆษณาตามความต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม และพัฒนาประสบการณ์การใช้งานให้กับผู้ใช้ เงื่อนไขการใช้งานเว็บไซต์ และ นโยบายสิทธิส่วนบุคคล
Subscribe
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุณสามารถปรับแต่งการตั้งค่าคุกกี้ในแต่ละประเภทได้ดังต่อไปนี้
จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่จำเป็นต่อการให้บริการ
(Strictly Necessary Cookies)
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงคุกกี้ที่จะช่วยให้ท่านสามารถเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยของเว็บไซต์ของเราได้
คุกกี้เพื่อการวัดผลการทำงานและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์
(Performance and Functionality Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะถูกใช้เพื่อจดจำท่านเมื่อท่านกลับเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราอีกครั้ง ช่วยให้เราปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะกับท่านและจดจำการตั้งค่าของท่าน (เช่น ภาษาหรือภูมิภาคที่ท่านเลือก) แต่ไม่จำเป็นต่อการวัดผลการทำงานของเว็บไซต์
คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์หรือเพื่อการปรับแต่ง
(Analytical or Customization Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการที่ผู้ใช้งานเข้าสู่เว็บไซต์และออกจากเว็บไซต์ เราใช้ข้อมูลนี้ในลักษณะของข้อมูลโดยรวมเพื่อช่วยให้เราปรับปรุงวิธีการทำงานของเว็บไซต์ หรือเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ของเราตามความสนใจของท่านได้