ในยุคที่โลกเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ได้กลายเป็นกรอบแนวทางสำคัญของนานาประเทศ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 12 “การบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืน” และเป้าหมายที่ 13 “การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น พฤติกรรมการบริโภคและการใช้ทรัพยากรของมนุษย์เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนและความไม่สมดุลของระบบนิเวศโลก
กลุ่มบางจาก หนึ่งในผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศไทย ได้ริเริ่มโครงการ “Fry to Fly” ซึ่งนำน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วจากครัวเรือน ร้านอาหาร และโรงงาน มารีไซเคิลและผลิตเป็นเชื้อเพลิงอากาศยานอย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Aviation Fuel (SAF) ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์เป้าหมาย SDG ข้อ 12 ในการลดของเสียผ่านการรีไซเคิล และเป้าหมาย SDG ข้อ 13 ในการบูรณาการนโยบายและมาตรการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเข้ากับนโยบายระดับประเทศ
บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบางจาก ธนโชค ออยล์ ไลท์ และ BBGI ได้ลงทุนกว่า 8,000-10,000 ล้านบาท เพื่อผลิต SAF ที่โรงกลั่นบางจาก กรุงเทพฯ โดยมีกำลังการผลิตสูงถึง 1 ล้านลิตรต่อวัน SAF ที่ผลิตจากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว (Used Cooking Oil: UCO) ผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ASTM D7566 สามารถใช้ร่วมกับเชื้อเพลิงอากาศยาน Jet A-1 ได้ในสัดส่วนสูงสุด 50% โดยไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ของอากาศยาน และสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวัฏจักรชีวิต (Life-cycle CO₂ Emissions) ได้สูงถึง 80% เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิล
โครงการ Fry to Fly ยังเปิดรับซื้อน้ำมันใช้แล้วจากประชาชนทั่วไปผ่านจุดรับที่สถานีบริการน้ำมันบางจากกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งช่วยสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ภาครัฐ และภาคเอกชนอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังมีส่วนช่วยผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 ตามแนวนโยบายของรัฐบาล
กรณีศึกษาของบางจากนี้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคและการผลิตที่ยั่งยืนมิใช่เพียงแนวคิดเชิงทฤษฎี หากแต่สามารถแปลงเป็นการดำเนินการที่จับต้องได้จริง ผ่านการลงทุนด้านนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยีสะอาด และการบูรณาการทุกภาคส่วนในสังคมอันเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่ความยั่งยืนในระยะยาว
ผลงานของ SDGs Young Creator จากทีม Smart fertilizer