กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่องกฎหมายสมรสเท่าเทียมกับการเตรียมความพร้อมขององค์กร

กรุงเทพฯ – 30 กรกฎาคม 2568 – กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ โดยกองสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “กฎหมายสมรสเท่าเทียมกับการเตรียมความพร้อมขององค์กร” โดยมี นางสาวดวงดาว เกียรติพิศาลสกุล รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานในพิธีเปิด เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับ “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ที่พึ่งผ่านการพิจารณาในวาระสุดท้ายของรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ตลอดจนเปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมเชิงนโยบายและการดำเนินงานภายในองค์กรให้สอดคล้องกับกฎหมายฉบับใหม่

ภายในงานมีการเสวนา 2 หัวข้อหลัก โดยหัวข้อแรก เรื่อง “สมรสเท่าเทียม และการเตรียมความพร้อมขององค์กรเพื่อส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมภายในองค์กร” ได้รับเกียรติจาก คุณธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, คุณสุภาณี พงษ์เรืองพันธุ์ ที่ปรึกษาด้านความเท่าเทียมทางเพศและการมีส่วนร่วมทางสังคม โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), และนางสาวฉัตราภรณ์ ดิษฐศรีพร นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการพิเศษ โดยมี นางสาวศิริอร อารมย์ดี นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการพิเศษ ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ 

ส่วนการเสวนาหัวข้อที่สอง เรื่อง “ต้นแบบที่ดีของการส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมภายในองค์กร” นำเสนอประสบการณ์จริงจาก คุณภูธัต เนตรสุวรรณ บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), คุณศิรยา เหลี่ยมจินดา บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), คุณธนัทเสฏฐ์ พรพระธานี บริษัทเบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน), และคุณสมัชชา พรหมศิริ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยมี ผศ.ดร.ปุณณ์ดาพัชร์ วิมลคุณารักษ์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการ

งานประชุมในครั้งนี้ได้รับความสนใจทั้งจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคธุรกิจ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการที่ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมประเด็นที่หลากหลาย เช่น การใช้เครื่องมือเพื่อส่งเสริมความหลากหลายและการมีส่วนร่วมในองค์กรและภาคธุรกิจ การผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศในรัฐสภา รวมถึงอุปสรรคที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศยังคงเผชิญอยู่ในสังคมและสถานที่ทำงาน 

การประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและสถานที่ทำงานให้เปิดกว้าง เคารพสิทธิ และให้โอกาสอย่างเสมอภาคกับทุกคน อีกทั้งยังเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การบริหารทรัพยากรบุคคล และการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งและยั่งยืนโดยเฉพาะด้านการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และเป็นธรรมสำหรับทุกคน