.jpg?1640314289302)
#GCNTCLIMATE: โอ๊คลินหวังช่วยลดโลกร้อนดัน เครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร เปลี่ยนเป็นปุ๋ยได้ใน 1 วัน! ช่วยครัวเรือนลดขยะเน่าเหม็น
โอ๊คลิน ในฐานะบริษัทผู้ผลิตเครื่องกำจัดขยะเศษอาหาร ต้องการจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากขยะเศษอาหารที่กำจัดอย่างผิดวิธี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญของการเพิ่มก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ และทำให้โลกของเราร้อนขึ้น สร้างความตระหนักให้ผู้คนเข้าใจการกำจัดขยะอาหารเพื่อนำขยะอาหารไปทำเป็นปุ๋ยต่อยอดเป็นพื้นที่สีเขียวสร้างออกซิเจนใหม่
ในขณะเดียวกัน โอ๊คลินเผยว่า ได้พยายามที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้คนผ่านการดำเนินงานที่ตรงกับ “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” SDGs ของสมัชชาสหประชาชาติด้วย 7 จาก 17 ข้อ ดังนี้
Industry Innovation and Infrastructure ข้อที่ 9
โอ๊คลินเผยว่า ได้ใช้เทคโนโลยีในการกำจัดขยะเศษอาหาร ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนสมัยใหม่ ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และรวดเร็วขึ้น
Sustainable Cities and Communities ข้อที่ 11
ขยะเศษอาหารสามารถเปลี่ยนให้เป็นปุ๋ยด้วยเครื่องโอ๊คลินได้ภายในเวลา 1 วัน และปุ๋ยสามารถนำมาบำรุงต้นไม้ สร้างพื้นที่สีเขียว ต่อยอดผลผลิตทางเกษตรกรรมทำให้ชุมชนน่าอยู่ มีอากาศที่ดี มีอาหารที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย ในขณะเดียวกันก็ไม่มีกลิ่นเหม็นจากของเสียมารบกวนใจ
.jpg?1640314385318)
Responsible Consumption and Production ข้อที่ 12
ในการรับผิดชอบโอ๊คลินมองว่า ต้องไม่คำนึงเฉพาะเรื่องกินเท่านั้น เราต้องรับผิดชอบการกำจัดของเสียเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและกลายเป็นภาระตามมา
Climate Action ข้อที่ 13
ประเทศไทยเน้นการกำจัดขยะแบบฝังกลบ ซึ่งในกองขยะมีขยะเปียกกว่า 64% จากการกำจัดอย่างไม่ถูกต้อง ส่งผลโดยตรงต่อภาวะโลกร้อน โอ๊คลินมองว่าการที่กำจัดขยะเศษอาหารตั้งแต่ต้นทาง จะสามารถสร้างความยั่งยืนและช่วยลดผลกระทบได้
Life Below Water ข้อที่ 14
ขยะเศษอาหารส่วนใหญ่ถูกกำจัดด้วยการฝังกลบ และหลุดลอยลงแม่น้ำหรือทะเล เกิดการเน่าเสียของน้ำ จนทำให้ระบบนิเวศใต้น้ำเสื่อมโทรม การใช้เครื่องกำจัดขยะเศษอาหารโอ๊คลินเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่ต้นทาง จะสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสัตว์ที่อยู่ในแหล่งน้ำได้
Life on Land ข้อที่ 15
ขยะเศษอาหารที่เรานำไปทำเป็นปุ๋ย สามารถต่อยอดไปช่วยในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เพิ่มป่าได้ ซึ่งพอมีต้นไม้เพิ่มขึ้น ก็เหมือนกับว่าเราได้สร้างตัวกรองอากาศที่ช่วยดูดซับคาร์บอนจากชั้นบรรยากาศได้ และได้สร้างที่อยู่อาศัยให้สัตว์บก ให้ดำรงอยู่ สร้างความหลากหลายขยายพันธุ์ต่อไป

Partnerships for the Goals ข้อที่ 17
การแก้ปัญหานี้โอ๊คลินไม่สามารถจัดการหรือแก้ปัญหาไม่ได้เลย ถ้าไม่มีองค์กรพาร์ทเนอร์ที่ให้ความสนใจและตระหนักร่วมกันแก้ไข รวมไปถึงทุกห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จร่วมกัน
เป้าหมายทั้ง 17 ข้อนี้ องค์การสหประชาชาติจัดทำขึ้นมาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals –SDGs) มุ่งหวังจะช่วยแก้ปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่ เช่น ความยากจน ความไม่เท่าเทียม สภาวะโลกร้อน และสันติสุข เพื่อเสริมแนวคิด “ ไม่เป็นการทิ้งใครไว้ข้างหลัง” คาดว่าจะทำสำเร็จได้ภายในปี 2030 หน่วยงานทั่วโลกได้นำเป้าหมายนี้มาใช้ในการวางแผน การดำเนินงานต่าง ๆ การที่องค์กรในไทย รวมถึงโอ๊คลินนำมาใช้ในการพัฒนาต่อยอดเหมือนกันจึงถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง