จากข้อมูลในการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยมหาสมุทรครั้งที่ 3 (UNOC3) ระบุว่า ปัจจุบันมีขยะพลาสติกมากกว่า 8 ล้านตันต่อปีที่ไหลลงสู่มหาสมุทร และพลาสติกส่วนใหญ่ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ขยะเหล่านี้จะถูกสะสมเป็นเวลานานหลายร้อยปี พร้อมถูกย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ไมโครพลาสติก ซึ่งนำไปสู่การแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม รวมถึงถ่ายทอดสู่มนุษย์จากการบริโภคสัตว์น้ำที่ปนเปื้อน
ดังนั้น ปัญหาขยะในท้องทะเลจึงเป็นวาระเร่งด่วนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ และนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ข้อที่ 14 ว่าด้วยการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยในเป้าหมายย่อย 14.1 ระบุว่า จะต้องมีการป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภทอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน รวมถึงขยะทะเลและมลพิษจากธาตุอาหาร (nutrient pollution) ภายในปี 2568 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน รวมถึงขยะทะเลและมลพิษจากธาตุอาหาร (nutrient pollution) ภายในปี 2568
ขอจงเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง พลังเล็ก ๆ ในวันนี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในวันข้างหน้า โดยการเริ่มต้นที่ดีที่สุดไม่ใช่การทำตามคำสั่งจากนิ้วมือของใคร แต่คือการทำจากความตระหนักรู้ในปัญหาด้วยตนเอง ผ่านการศึกษาและมองเห็นผลกระทบ และจัดการปัญหาที่เป็นต้นตอสำคัญนั่นคือ พฤติกรรมของมนุษย์
แค่พวกเราเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภค โลกก็ดีขึ้นได้ และเมื่อพฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนไป ภาคธุรกิจก็ย่อมต้องปรับตัว จะเห็นได้จากเทรนด์การสร้างบรรจุภัณฑ์หรือธุรกิจที่มีความเป็นมิตรต่อโลกที่เพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่น่ากังวลคือ การรักษ์โลกจะกลายเป็นแค่กระแสที่ผ่านมาแล้วผ่านไปหรือไม่ ดังนั้น ควรให้ความรู้สึกรักษ์โลกฝังรากลึกด้วยการปลูกฝังจิตสำนึกตั้งแต่เด็ก เช่น ลดการใช้พลาสติก ฝึกการแยกขยะ สร้างวินัยในการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เด็กได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นความหวังของผืนทะเล และความหวังของโลกใบนี้ต่อไป
หลอดพลาสติกหนึ่งชิ้นจากมือทุกคนสามารถทำลายโลกได้ มือเล็ก ๆ จากเยาวชนก็สามารถรักษาโลกได้เช่นกันเดียวกัน อย่าปล่อยให้ขยะต้องเป็นบ้านของสัตว์ทะเล มาร่วมพัฒนาโลกอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
ผลงานของ SDGs Young Creator จากทีม Society advances