หลักสากลในการดำเนินธุรกิจช่วงสถานการณ์วิกฤติ COVID-19 จาก UN Global Compact
Thailand's Hot Issues
ในฐานะเครือข่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในโลก UN Global Compact ขอความร่วมมือให้ผู้นำทางธุรกิจมาร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือลูกจ้าง ชุมชน และบริษัทที่ได้รับผลกระทบจาก โรคระบาด COVID-19
นักธุรกิจที่นำหลักสากล 10 ประการของ UN Global Compact ไปใช้เป็นแนวทางในการตัดสินใจ จะสามารถจัดการต่อสถานการณ์การเกิด โรคระบาด COVID-19 ได้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
สิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว คือ การร่วมกันทำแผนธุรกิจระดับนานาประชาชาติ ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ อำนวยความสะดวก และช่วยป้องกันไม่ให้มีการพังทลายของธุรกิจไปมากกว่านี้
หลักสากล 10 ประการของ UN Global Compact สามารถนำมาใช้ได้ในทุกการตัดสินใจ ในการคิดอะไรใหม่ๆ และ เป็นแรงบันดาลใจในช่วงเวลาที่ผู้คนขาดความเชื่อมั่นนี้
เพื่อให้ภาคธุรกิจ ได้ผนึกกำลังในการรับมือกับช่วงวิกฤตนี้ UN Global Compact ขอสร้างความเป็นผู้นำให้นักธุรกิจ นำหลักสากล 10 ประการนี้ไปใช้
ด้านสิทธิมนุษยชน
หลักการที่ 1 : สนับสนุน และเคารพการปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ประกาศในระดับสากล ภายใต้หลักเกณฑ์การควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
หลักการที่ 2 : หมั่นตรวจตราดูแลมิให้ธุรกิจของตน เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน ภายใต้หลักเกณฑ์การควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่าง :
ทำให้มั่นใจว่า มาตรการที่นำมาใช้เพื่อจัดการปัญหา COVID-19 นั้น ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ โดยไม่มีการแบ่งแยกใดๆ เช่น เชื้อชาติ สีผิว ความพิการ อายุ เพศ ศาสนา ความแตกต่างทางความคิดเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ หรือสถานะอื่น ๆ ทำให้มั่นใจว่า ความต้องการของทุกคน ได้รับการเอาใจใส่ที่จำเป็นและเหมาะสม ภายใต้หลักเกณฑ์การควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
มาตรฐานแรงงาน
หลักการที่ 3 : ส่งเสริมสนับสนุนเสรีภาพในการรวมกลุ่มของแรงงาน และ การรับรองสิทธิในการร่วมเจรจาต่อรองอย่างจริงจัง ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น 
หลักการที่ 4 : ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการใช้แรงงานเกณฑ์ และแรงงานที่ใช้การบังคับในทุกรูปแบบ เพื่อควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
หลักการที่ 5 : ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการใช้แรงงานเด็กอย่างจริงจัง
หลักการที่ 6 : ส่งเสริม สนับสนุน และหาแนวทาง เพื่อต่อต้านการเลือกปฏิบัติในเรื่องการจ้างแรงงานและการประกอบอาชีพ
ตัวอย่าง :
- ใช้ความยืดหยุ่น ความเห็นใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการรับมือต่อสถานการณ์ การเกิด โรคระบาด COVID-19 เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อลูกจ้าง และคู่ค้าทางธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจกลุ่ม SMEs มากเกินไป โดยมีมาตรการลดผลกระทบทางการเงิน ระวังไม่ละเมิดสิทธิ์ และสวัสดิการของลูกจ้างให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- จัดหารายได้ และผลประโยชน์ที่ต่อเนื่อง อย่างมั่นคง ถึงแม้ว่า จะเป็นการทำงานแบบยืดหยุ่น เช่น จำเป็นต้องหยุดการทำงานเพราะเจ็บป่วย หรือ ถูกกักตัว หรือ มีภาระการดูแลสมาชิกในครอบครัวที่ป่วย ซึ่งอาจส่งผลให้ขาดรายได้ หรือตกงาน จัดหารายได้เสริมต่อการยังชีพให้กับลูกจ้างที่ต้องรับภาระ เช่น ลูกจ้างที่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ และ ลูกจ้างรับเหมาค่าแรง
- ปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัด เท่าที่จะทำได้ ให้ซัพพลายเออร์ มีส่วนร่วมในการทบทวนวิธีการทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่า มีสภาพการทำงานที่เหมาะสม ในห่วงโซ่อุปทาน และสนับสนุนให้มีความยืดหยุ่นในการจัดส่งสินค้าและการระบายสินค้า
- ใช้หลักของการป้องกัน และ สร้างความเชื่อมั่น ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงของพนักงานในสถานที่ทำงาน โดยกำหนดมาตรการป้องกันส่วนบุคคล (ความสะอาดของมือ) มาตรการด้านสิ่งแวดล้อม (การทำความสะอาดสถานที่ทำงาน) และ การจัดเตรียมรูปแบบการทำงาน ให้มีระยะห่างทางสังคม (กำหนดให้ลูกจ้างมีการทำงานที่บ้านเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อลดการติดต่อซึ่งหน้าระหว่างบุคคลลง)
- การปกป้องสิ่งแวดล้อม
หลักการที่ 7 : สนับสนุนแนวทางการระแวดระวัง ในการดำเนินงาน ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
หลักการที่ 8 : อาสาจัดทำกิจกรรม ที่ส่งเสริมการยกระดับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
หลักการที่ 9 : ส่งเสริมการพัฒนา และการเผยแพร่เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวอย่าง:
ส่งเสริมการใช้สื่อสารทางไกล และ การประชุมเสมือนจริง ซึ่งสามารถลดการเดินทางมาทำงานในสถานที่เดียวกัน ซึ่งลดผลกระทบต่อมลพิษ และสภาพแวดล้อม มีการตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการติดตามวัดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เช่น รายงานคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ เพื่อช่วยประเมินว่า แนวทางใดที่สามารถส่งเสริมได้ในระยะยาว ในการลดการปล่อยมลพิษ
ในช่วงเวลาสั้น ๆ วิกฤตการณ์ COVID-19 ได้มีผลกระทบเชิงบวก ต่อสิ่งแวดล้อมของโลก โดยลดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก เมื่อมีความจำเป็นในการเดินทาง เราขอแนะนำให้ผู้เดินทางพิจารณาตัวเลือกในการเดินทาง ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า และ เลือกการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ซึ่งสามารถส่งเสริมระบบนิเวศ และวิถีชีวิตในท้องถิ่นได้ ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อควบคุมมิให้การเกิด โรคระบาด COVID-19 แพร่กระจายมากยิ่งขึ้น
การต่อต้านการทุจริต
หลักการที่ 10 : ดำเนินงานเพื่อต่อต้านการทุจริต รวมทั้งการกรรโชก และการให้สินบนในทุกรูปแบบ
ตัวอย่าง:
สร้างความเชื่อมั่น ผ่านการสื่อสาร และนโยบายที่สอดคล้อง มั่นคง และโปร่งใส มีการตรวจสอบให้แน่ใจว่า มีการจำหน่ายจ่ายแจกผลิตภัณฑ์ และมีการให้บริการอย่างเป็นธรรม
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับผู้ที่ทำงานในธนาคาร การประกันภัย และการเงิน:
- บริษัท และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงิน สามารถทำงานร่วมกับธนาคาร และนักลงทุนเพื่อให้มั่นใจว่า ธุรกิจจะดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และ ลดผลกระทบของโรคระบาดต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะในกรณีที่มีความเสี่ยง ต่อการหยุดการทำงานชั่วคราว และความเสี่ยงที่จะต้องงดบริการต่างๆที่ไม่จำเป็นมากนัก ในช่วงการเกิด โรคระบาด COVID-19
- ธนาคารสามารถอนุมัติวงเงินสินเชื่อพิเศษ และ ผ่อนผันเงื่อนไขการชำระคืน สร้างโอกาสในส่วนผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีอยู่ ปรับให้เหมาะสม สำหรับธุรกิจที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่จำเป็นในสถานการณ์นี้
- ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการพัฒนา สามารถจัดโครงสร้างเครื่องมือทางการเงินแบบผสมผสาน ที่ใช้ประโยชน์จากกองทุน และสนับสนุนกิจกรรมการป้องกันเท่าที่จำเป็น
- ระบบประกันสังคม ควรให้ความมั่นใจได้ว่า การให้เงินช่วยเหลือกรณีการว่างงาน ให้ผู้ที่ขาดรายได้ สำหรับพนักงาน ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 จะได้รับอย่างรวดเร็วและราบรื่น
- องค์กรด้านการดูแลสุขภาพ และการประกันสุขภาพ สามารถทำงานร่วมกัน เพื่อลดภาระทางการเงินในผู้ป่วย ที่ต้องการการดูแลที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรคได้
- นักลงทุนสามารถลงทุนในองค์กรธุรกิจ ที่สนับสนุนด้านการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ได้
การปฏิบัติอื่น ๆ ที่ท่านและบริษัทของท่านสามารถทำได้ :
- สนับสนุน โดยการบริจาคให้กองทุน COVID-19 Solidarity Response ซึ่งถูกสร้างขึ้น เพื่อสนับสนุนองค์การอนามัยโลก (WHO) และ พันธมิตรในความพยายามที่จะช่วยในการป้องกัน ตรวจโรค และจัดการ COVID-19
- สร้างความตระหนักโดยการส่งต่อข้อมูลจาก WHO และ ข้อมูลของทางราชการกระทรวงสาธารณสุขไทย เกี่ยวกับข้อควรระวังและมาตรการป้องกันอื่น ๆ
